วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ข้อคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ



ข้อคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ

ข้อคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ




1. ทุกคนจงประจักษ์
หากคุณยังไม่มีในสิ่งที่คุณต้องการ  จงถามตัวคุณเองว่า "ฉันประจักษ์ในสิ่งนี้ว่าอย่างไร"

2. จงเป็น ทำ และมี
จงเป็นก่อน  แล้วจึงทำ  จากนั้นคุณจะมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่งที่คุณต้องการ

3. จงใช้ชีวิตอยู่เหนือเส้น
หากคุณพร้อมที่จะเรียนรู้แทนการตำหนิ  ชีวิตก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

4. ความพรั่งพร้อมคือภาวะปกติของคุณ 
โอกาศและความสุขสำราญทั้งหลายจะเป็นของผู้ที่มีทัศนคติที่ดีต่อความพรั่งพร้อมเท่านั้น

5. ผู้ให้จะได้รับ
จงให้  และสิ่งนั้นจะกลับคืนมาหาตัวคุณ

6. การเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงในตัวคุณคือการทำให้เจ็บ
เมื่อคุณควบคุมความคิดของคุณเองได้  คุณก็จะสามารถควบคุมผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

7. คำพูดเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้
จงพูดด้วยวัตถุประสงค์ที่ดีเท่านั้น  ถ้าสิ่งนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร  ก็จงอย่าพูด

8. ตัวคุณคือความมั่งคั่งของคุณ
สิ่งที่คุณต้องการมีเพียงแค่ความคิดดีๆ และความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้น  ส่วนที่เหลือนั้นคุณสามารถหยิบยืมมาจากที่อื่นได้

9. ความมั่งคั่งคืออิสรภาพ
ความมั่งคังอันยิ่งใหญ่ 6 ประการ ได้แก่  อิสรภาพทางการเงิน  อิสรภาพในเรื่องเวลา  อิสรภาพด้านความสัมพันธ์  อิสรภาพแห่งจิตวิญญาณ  อิสระภาพทางกาย  และอิสรภาพในการค้นหาอัจฉริยภาพในตัวคุณ

10. ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่ความฝัน
จงปล่อยให้ตัวคุณเองฝันเฟื่องต่อไป  คุณสามารถมีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างได้

11. ความชัดเจนคือพลัง
จงอย่าคิดถึงเป้าหมายของคุณ  แต่คิดจากเป้าหมายของคุณ

12. ความชัดเจนมากยิ่งขึ้นคือพลังมากยิ่งขึ้น
จงจดบันทึกเป้าหมายสูงสุดของคุณทุกๆ วัน วันละหกเรื่อง

13. ค้นหาอัจฉริยภาพในตัวคุณ
คุณมีพรสวรรค์พิเศษ  มีความสามารถ  มีความสนใจและค่านิยม  ซึ่งตัวคุณเองเท่านั้นที่จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาก่อให้เกิดความยิ่งใหญ่ได้

14. พลังแห่งอำนาจความรัก
จงทำในสิ่งที่คุณรัก  แล้วเงินก็จะตามมา

15. จินตนาการอยู่เหนืออำนาจการตัดสินใจ
เมื่ออำนาจการตัดสินใจเกิดความขัดแย้งกับจินตนาการ  จินตนาการมักจะเป็นผู้ชนะอยู่เสมอ

16. ขนาดของคำถามกำหนดขนาดของคำตอบ
เมื่อคุณถามตัวคุณเองด้วยคำถามที่ดีขึ้น  คำตอบที่คุณได้รับก็จะดีขึ้นอย่างมากด้วย

17. คุณรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
ให้เวลาสักนิดเพื่อบ่มเพาะสัญชาตญาณของคุณ  แล้วทำตามที่ "กึ๋น" ของคุณบอกให้ทำ  ซึ่งแทบจะไม่เคยผิดพลาดเลย

18. จงมีความพอเหมาะพอควร
คุณต้องมีความต้องการที่จะทำเช่นนั้น  คุณต้องเชื่อว่าคุณสามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมาก คุณต้องเชื่อว่าคุณสมควรที่จะได้รับความมั่งคั่งนั้นอย่างเต็มที่

19. คุณคือแม่เหล็กที่ดึงดูดเงินได้ 
คุณเป็นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเอาสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการให้มาหาคุณได้  ถ้าหากคุณต้องการเงินนั้นจริงๆ เงินก็ไม่สามารถปฏิเสธคุณได้

20. จงเคาะประตู  แล้วประตูก็จะเปิดออก
"จงเริ่มต้นทำเท่าที่คุณสามารถทำได้  หรือฝันว่าคุณสามารถทำมัน  ความกล้านั้นแฝงไว้ด้วยความหลักแหลม  ขุุมพลัง  และอำนาจวิเศษ"

21. การแบ่งปันทำให้มีมากยิ่งขึ้น
การบริจาคเงินหนึ่งในสิบเป็นเสมือนตัวคูณ  มิใช่ตัวลบของเงินนั้น

22. พระเจ้าทรงทราบดีกว่ามีทองอยู่ที่ไหน
จงเป็นพันธมิตรกับผู้ที่บันดาลให้เกิดความมั่งคั่งทั้งหลาย

23. การทำลายคือการสร้าง
การกลับคืนสู่สภาพเดิมคือศัตรูตัวฉกาล  จงฟันฝ่าเพื่อไปสู่ผลลัพธ์ในระดับใหม่ที่ดีกว่าเดิม

24. นำทุกอย่างมารวมเข้าด้วยกัน
การกระทำในสิ่งที่สมควรทำเป็นกุญแจดอกสุดท้ายสู่การประจักษ์ในสิ่งที่คุณต้องการ


อ้างอิงจาก : หนังสือคิดเป็น..เห็นเงินล้าน (The one minute millionaire)




บทความแรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงินที่เกี่ยวข้อง :




วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แนวคิดการบริหารงานของมหาเศรษฐี



แนวคิดการบริหารงานของมหาเศรษฐี


แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี แนวคิดการบริหารงานของมหาเศรษฐี



มาร์ก ซัคเกอร์เบิก

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี


-  อ่านทะลุ ว่าลูกค้าต้องการอะไร
-  ค้นพบในสิ่งที่รัก การเป็นอัศริยะก็เกิดขึ้น
-  มีวิสัยทัศน์
-  ยุคดิจิตอล ถ้าเป็นผู้ควบคุมได้ จะมั่งคั่งมหาศาล
-  มีมุมมองที่ดี
-  บ่นได้แต่ต้องทำ
-  การบริหารจัดการที่ดี

มาร์ก ซัคเกอร์เบิก กล่าวว่า :

"คุณต้องมีความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นว่าคุณสามารถจะทำได้ ผมเองก็พยายามกระตุ้นเพื่อนร่วมงานไม่ให้ยอมจำนนหรือมีทัศนคติว่า ..ทำไม่ได้..."



เจเค โลลิ่ง


แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี แนวคิดการบริหารงานของมหาเศรษฐี เจ เค โรลลิ่ง


-  คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมาก ประสบความสำเร็จได้จากแรงส่ง
-  มีห้องสมุดอยู่ในบ้าน
-  การที่ตกต่ำที่สุด ทำให้เราใช้ชีวิตแบบระมัดระวัง
-  ความล้มเหลว ทำให้เรามุ่งมั่นกับเป้าหมายชีวิต
-  อย่ามองข้ามความล้มเหลว
-  ความมืดทำให้เกิดความคิด เกิดความกลัว
-  Hollywood คือแหล่งรวบรวมอัศริยะด้านความบันเทิง

เจเค กล่วว่า :

"สิ่งที่ฉันกลัวที่สุด ตอนอายุเท่าพวกคุณ ไม่ใช่ความจน หากเป็นความล้มเหลว"

"ความล้มเหลว มอบความมั่นคงทางจิตใจให้กับฉัน.. ความล้มเหลว สอนเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับตัวฉันเอง ที่ไม่่สามารถเรียนรู้ได้โดยวิธีฉัน"

"ฉันหยุดหลอกตัวเองว่า... ฉันเป็นอะที่มากกว่าที่ฉันเป็น แล้วเริ่มทุ่มเทพลังงานให้กับการทำงานเดียว ที่สำคัญสำหรับฉันให้เสร็จ"




วอเรน บัฟเฟต

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี แนวคิดการบริหารงานของมหาเศรษฐี วอเรน บัฟเฟต



บัญญัติ 10 ประการ
1.  จงเป็นคนประหยัด
2.  ช้าๆได้พร่าเล่มงาม
3.  เดินสวนกระแสบ้าง
4.  ต้องเป็นนักลงทุนที่รู้จริง
5.  เลือกลงทุนในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจ
6.  อย่าฟังการยืนยันของตลาด
7.  ค้นหาของดีราคาถูกให้พบ
8.  มองหาบริษัทที่รั้วรอบขอบชิด ล้อมครอบด้วยคูลึก ดูบริษัทที่มีพื้นฐานดี
9.  จงทุ่มเงินลงในบริษัทที่น่าซื้อ
10.  จงเชื่อในอเมริกา
11.  จงซื้อเพื่อถือไว้หากำไรในระยะยาว

หลักการลงทุนในบริษัทต่างๆ ของวอเรน  บัฟเฟต
1. เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน
2. เป็นที่ธุรกิจที่ได้รับความนิยม และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกรง และมีชื่อเสียงอยู่แล้ว
3. สามารถคาดเดารายได้และรายจ่ายได้ไม่ยาก
4. ROE สูง หรือผลตอบแทนต่อทุน 
5. จะต้องมีกระแสเงินสดที่ดี
6. เป็นผุ้บริหารที่ดี และเห็นแก่ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
   1.  ห้ามบริหารบริษัทให้ขาดทุน
   2.  กลับไปดูข้อ 1 มันเป็นข้อสำคัญ
   3.  การลงทุนแบบที่คิดว่าเราทำธุรกิจเป็นการลงทุนอย่างฉลาดที่สุด
   4.  ธุรกิจที่ดีอาจไม่ได้หมายถึงการลงทุนที่ดี ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับราคาที่เราลงทุนไป
   5.  การลงทุนในช่วงเวลาที่ดีและราคาที่เหมาะสม
   6. จงซื้อในตอนที่คนอื่นกลัว



บทความแรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงินที่เกี่ยวข้อง :
  


20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40



20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40

20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40 บทความดีๆ



1. ตั้งใจเรียนเป็นเรื่องดี  แต่ไม่ต้องมากจนเกินไป  เพราะโลกแห่งความเป็นจริง  วัดกันที่ผลงาน  ไม่ใช่ที่เกรด
2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก  อย่ามัวแต่คร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
3. เลือกงานที่ชอบ  แต่อย่าลืมถามตัวเองว่างานนั้นเลี้ยงชีพได้หรือเปล่า  ถ้าไม่ใช่  ก็อย่าหลอกตัวเอง  หาอย่างอื่นทำไปก่อน
4. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด  เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางชีวิตตลอดไปในชาตินี้
5. เก็บเงินก่อน  รวยเร็วกว่า  และสิ่งที่สำคัญที่ต้องจำไว้ก็คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
6. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรกสู่ความร่ำรวย  แต่ขั้นต่อมาคือ "ต้องรู้จักลงทุน"
7. ซื้อบ้านก่อนที่จะซื้อรถ  เพราะส่วนใหญ่บ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น  ส่วนรถมีแต่มูลค่าลดลง (รถ=ลด)
8. ดอกเบี้ยบ้านโหดมาก  รีบใช้ให้หมดโดยเร็ว  ก่อนที่จะแก่แล้วผ่อนไม่ไหว
9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้  เพราะเราไม่มีทางรู้ว่า  วันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มากจนกลับมาทำร้ายเราได้
10. "คอนเน็คชั่น" หรือ "สายสัมพันธ์" เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน  ก็สู้มีเพื่อนดีๆ เยอะๆ ไม่ได้
11. มีรายได้มากกว่าหนึ่งทาง  เพราะความมั่นคงไม่เคยมีอยู่จริงบนโลกใบนี้
12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว  เพราะความสามารถของคนเรามีมากกว่าหนึ่ง
13. เมื่อมีโอกาสใดๆ เข้ามา  อย่าปฏิเสธ  ถึงจะล้มเหลว  แต่มันก็คือประสบการณ์
14. สร้างเนื้อสร้างตัวให้เร็วที่สด ในขณะที่ยังมีกำลัง  เพราะการฝ่าฟันในวันที่อายุมากไม่ใช่เรื่องสนุก
15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว  เพราะเมื่อมีครอบครัว  การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
16. การเลือกคู่ชีวิต  จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา  แต่ต้องดูด้วยว่ารับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
17. ความเป็นสามีภรรยายังเลิกกันได้  แต่ความเป็นพ่อแม่ลูกนั้นเลิกไม่ได้  จงดูแลลูกๆ ของเราให้ดี
18. ความสำเร็จต่อให้มากมายแค่ไหน  ก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้เลยแม้แต่น้อย
19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ  ไม่ต้องทำอะไรดูบ้าง  อย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว  งานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งที่ต้องใส่ใจ  ถนอมตัวเองเมื่อยังวัยรุ่น  อย่าใช้ชีวิตหนักเกินไป




อ้างอิงจาก : หนังสืองานไม่ประจำ ทำเงินกว่า เขียนโดยคุณวิสตร  แสงอรุณเลิศ



บทความแรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงินที่เกี่ยวข้อง :


เรียนรู้ตลอดเวลา และต้องรู้มากกว่าคนอื่น



เรียนรู้ตลอดเวลา  และต้องรู้มากกว่าคนอื่น





"ถ้าผมเริ่มหยุดเรียนเมื่อไหร่ ผมก็จะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว  การเรียนรู้  หมายถึง  การยอมรับความเสี่ยงโดยไม่ต้องกลัวเสียหน้า"
แจ็ค เวลช์ ผู้บริหารสูงสุุดบริษัท GE Electric


คนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ทุกคนนั้น มีคุุณสมบัติพิเศษที่จะสร้างวิวัฒนาการและเปิดรับความรู้ใหม่ๆ แบบ 360 องศา  การแสวงหาแหล่งเรียนรู้ให้กับตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด  และที่สำคัญมาก คือ ต้องรู้มากกว่าคนอื่น  เราถึงจะพบกับความสำเร็จที่เร็วและแรงได้  สำหรับความหมายจริงๆ  ของคำว่า "การเรียนรู้" มีนักจิตวิทยาได้ให้ความหมายของการเรียนรู้ไว้หลายท่าน ในที่่นี้จะสรุปพอเป็นแนวทางให้พอเข้าใจง่ายๆ คือ 

การเรียนรู้  หมายถึง  การที่มนุษย์ได้รับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเขา  โดยเริ่มต้นตั้งแต่การมีปฏิสนธิอยู่ในท้องแม่เรื่อย  จนกระทั่งคลอดมาเป็นทารก  แล้วอยู่รอดมีชีวิต  ซึ่งเมื่อมีชีวิตรอดแล้ว  และเมื่อออกมาอยู่ภายนอกเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่รอด  ทั้งนี้ก็เพราะการเรียนรู้ทั้งสิ้น  การเรียนรู้มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าการสั่งสอน  หรือการบอกเล่าให้เข้าใจและจำได้เท่านั้น  ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำตามแบบหรือเลียนแบบ  ไม่ได้มีความหมายต่อการเรียนในวิชาต่างๆ เท่านั้นท  แต่ความหมายคลุมไปถึง  การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมอันเป็นผลจากการสังเกตพิจารณา  ไตรตรอง  แก้ปัญหาทั้งปวงและไม่ชี้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปในทางที่สังคมยอมรับเท่านั้น

การเรียนรู้เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม  การเรียนรู้เป็นความเจริญงอกงาม  อยากเน้นว่า  การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เป็นการเรียนรู้  ต้องเนื่องมาจากประสบการณ์  หรือการฝึกหัด  และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นควรจะต้องมีดำรงอยู่เป็นการรับรู้ตลอดไป  เหมาะแก่เหตุเมื่อพฤติกรรมดั้งเดิมเปลี่ยนไปสู่พฤติกรรมที่มุ่งหวัง  ก็แสดงว่าเกิดการเรียนรู้แล้ว

มีนักจิตวิทยาการศึกษาของโลก  ได้มีการเปิดเผยทฤษฏีของการเรียนรู้  ซึ่งรู้จักกันดีในนาม  ทฤษฎีของ Bloom (Bloom's Taxonomy) เขาได้แบ่งการเรียนรู้ของคนเราทั่วไปนั้นเป็น 6 ระดับ  ที่คนรุ่นใหม่ควรให้ความสนใจมาก ๆ คือ

1. ความรู้ที่เกิดจากความจำ (Knowledge) ซึ่งเป็นระดับล่างสุุด  มันเป็นความรู้ที่เกิดจากการที่เขาเราได้เห็น  ได้สัมผัส  มันส่งผลให้เกิดความจำในเรื่องราวต่างๆ

2. ความเข้าใจ (Comprehend) มันเป็นเรื่องที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นที่เรารู้ว่า นอกจากที่เราได้อ่าน  ได้สัมผัส  แล้วมันเกิดอะไรขึ้นตามมาเอง  เป็นความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ

3. การประยุกต์ (Application) เป็นการนำเรื่องราวต่างๆ ที่เข้าใจจมาเลือกแยกแยะออกมา  นำมาประสานกันให้เกิดประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง

4. การวิเคราะห์ (Analysis) คือ  การสามารถแก้ปัญหา  ตรวจสอบในเรื่องต่างๆ ที่เรียนรู้มาได้

5. การสังเคราะห์ (Synthesis) สามารถนำส่วนต่าง ๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้  ให้แตกต่างจากรูปเดิม  เป็นรูปแบบใหม่

6. การประเมินค่า (Evaluation) วัดได้  และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด  ประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและเกณฑ์ที่แน่ชัด

สังเกตได้ว่าในสองข้อแรกนั้น  เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนมีอยู่  แต่ 4 ข้อหลังเป็นต้นมานั้น  ตั้งแต่เรื่องของการประยุกต์  การวิเคราะห์  การสังเคราะห์  การประเมินค่านั้น  เป็นเรื่องที่จำเป็นมากกับแนวความคิดของคนรุ่นใหม่ที่จะใช้เป็นตัวผลักดันตัวเราเองให้ไปยืนอยู่แถวหน้าได้

การไปหาความรู้ที่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จมากๆ ต้องมีเป็นอาวุธสำคัญ  ซึ่งในบทเรียนเรื่องของกลยุทธ์ในการทำงานสู่ความมั่งคั่งหรือความสำเร็จทั้งหลายนั้น  นักธุรกิจทั้งในระดับโลกนั้นต่างพูดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

"ถ้ามัวแต่คิดว่าตัวเองเก่ง  และนิ่งอยู่กับที่  ก็เหมือนกับแพ้แล้ว  เพราะเมื่อเราหยุดนิ่ง  ก็เหมือนกับการก้าวเดินถอยหลัง  ในขณะที่คนอื่นๆ เขากำลังก้าวไปข้างหน้า!!!!"


"มันอยู่ที่  การเรียนรู้ที่ไม่ยอมหยุดอยู่กับที่ทั้งสิ้น  
ต่อให้จินตนาการยิ่งใหญ่แค่ไหน  
ไม่มีความรู้ไม่มีความกล้าที่จะทำมันก็เป็นเพียงฝุ่นในสายลมก็เท่านั้นเอง...."



อ้างอิงจาก : หนังสือ 10 เหตุผลที่คนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จเร็วและแรง




บทความแรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงินที่เกี่ยวข้อง :

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

คิดบวก : รักษาความเป็นบวกไว้เสมอ



คิดบวก : รักษาความเป็นบวกไว้เสมอ

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี - คิดบวก


"สิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่คุณทำเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จก็คือการควบคุมองค์ประกอบต่างๆ ที่กำลังชี้แนะชี้นำความคิดที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมของคุณ  จงทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณกำลังมองและฟัง  เป็นไปในทางเดียวกับเป้าหมายที่คุณต้องการ

ได้"

ฟังจนสำเร็จ
ฟังความรู้ที่มีสาระในรถของคุุณ  เราเสียเวลาอยู่ในรถเป็นเวลานานระหว่างการเดินทางในแต่ละวัน  คุณจะเรียนรู้ได้มากมายหากคุณใช้เวลาเหล่านั้นมาฟังความรู้  แล้วไอเดียบางอย่างจะซึมซับลงไปในตัวคุณ  อย่างไม่รู้ตัว

ค้นหาสิ่งที่ดีในงานอาชีพของคุณ
จงเข้าฟังสัมมนาที่บรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญในงานของคุณ  หาหลักสูตรเพิ่มเติมอื่นๆ แล้วเรียนรู้ทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้  ถามคำถามผู้เชี่ยวชาญ  เขียนจดหมายไปพูดคุย  อ่านหนังสือของพวกเขา  อ่านบทความและฟังคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในด้านที่คุณต้องการประสบความสำเร็จ

อยู่กับคนที่ใช่
คบหาสมาคมกับคนที่เป็นบวก  คิดบวก และมุ่งสำเร็จเท่านั้น  อยู่ใกล้ผู้ชนะ  ดังที่เราพูดกันว่า  "บินกับอินทรี"  คุณไม่สามารถบินไปกับอินทรีได้  หากคุณยังคงคุ้ยเขี่ยดินกินแบบไก่  ขอให้อยู่ห่างคนประเภทที่ไม่ได้ไปไหนในชีวิต  และที่เหนืออื่นใดให้อยู่ห่างคนที่เป็นลบ  อยู่ห่างผู้ร่วมงานที่คิดลบ  หากคุณมีเจ้านายที่เป็นลบ  ให้คุณพิจารณาเปลี่ยนงานเสียเถอะ  การคบหาสมาคมอย่างสม่ำเสมอ  กับคนที่เป็นลบก็เพียงพอที่จะสาปชีวิตของคุณให้อับเฉาได้แล้ว  คุณจะไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างที่ควร  รู้สึกคับข้องใจ  และล้มเหลว

จงคบหากับคนที่เป็นบวก  อยู่ใกล้ๆ ผู้ชนะแบบคบบัณฑิต  บัณฑิตพาไปหาผล  นั่นแหละถูกต้องที่สุด

จินตนาการสร้างภาพเป้าหมายของคุณ
สิ่งสุดท้ายก่อนที่จะล้มตัวลงนอน  และสิ่งแรกเมื่อตื่นนอนตอนเช้า  ให้จินตนาการสร้างภาพเป้าหมายของคุณอย่างที่กลายเป็นจริงแล้ว  มองเห็นเป้าหมายของคุณราวกับว่ามันอยู่ที่นี่จริง  จิตใต้สำนึกของคุณจะถูกกดปุ่มให้ทำงาน  ด้วยการพูดย้ำและสร้างภาพซึ่งเป็นลักษณะซึ่งเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นปัจจุบัน  มองเห็นเป้าหมายของคุณอย่างชัดเจนเหมือนจริงก่อนที่คุณจะนอนหลับไป  มองเห็นตัวเองปฏิบัติออกมาได้ดีที่สุด  มองเห็นสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญกำลังส่งผลดีอย่างที่คุณต้องการเลย

ป้อนภาพเข้าสมองของคุณเรื่อยๆ
มองเห็นตัวเองกำลังใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการมี  มองเห็นตัวเองว่ามีความสัมพันธ์  สุขภาพ  รถยนต์  บ้าน  ชนิดที่คุุณต้องการอย่างยิ่ง  สร้างภาพในจินตนาการก่อนที่จะง่วงหลับไปตอนกลางคืน  และทำเช่นนี้เป็นสิ่งแรกก่อนที่จะลุุกขึ้นจากเตียงนั่นเป็นสองช่วงเวลาที่จิตใต้สำนึกของคุณรับข้อมูลได้อย่างว่องไว





"เป็นเรื่องดีมากๆ ที่คุณกำลังเป็นคนที่มีภาพแห่งความสุข  
ความสำเร็จ  ติดตัวไปทุกที่  และมันกำลังเป็นจริงขึ้นมาแล้วในไม่ช้านี้"




"Some dream of worthy accomplishments, 
while others stay awake and do them."
บางคนมัวแต่ฝัน  
แต่ในขณะที่บางคนกำลังลงมือทำให้มันเป็นจริง






อ้างอิงจาก : หนังสือ 10 เหตุผลที่คนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จเร็วและแรง


วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความกล้าแบบชนิดที่เปลี่ยนโลกได้



ความกล้าแบบชนิดที่เปลี่ยนโลกได้

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



"Imagination is more important than knowledge"

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้


มีการยอมรับกันในเวลานี้ของผู้ที่เคยประสบความสำเร็จแล้วว่า  สิ่งที่จะทำให้คนรุ่นใหม่นั้นพบกับความสำเร็จแบบถล่มถลานนั้น  คือ  ความกล้า  ไม่ใช่แบบปกติธรรมดา  แต่ต้องเป็นความกล้าชนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ถึงจะสำเร็จ


โดยปกติพื้นฐานของนิสัยมนุษย์เราแล้ว  มักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง  ซึ่งเรื่องนี้ซิกมันด์ ฟรอยด์  นักจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียงระดับโลกได้กล่าวไว้ว่า  "โดยพื้นฐานของมนุษย์กลัวการเปลี่ยนแปลง"  เพราะความกลัวการสูญเสียความมั่นคงในชีวิตมันเริ่มมาจากความไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองมี

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย  เพียงแต่เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนเสียก่อน  ว่าต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่อะไร  นั่นคือสิ่งที่สำคัญมาก

เพราะในสิ่งที่ทุกคนมีในตัว  มันเป็นแค่พรสวรรค์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น  ที่กล่าวมาแล้ว  ทั้งรู้จักตัวตน  ความฝันและแรงบันดาลใจ  แต่ตัวการสำคัญที่จะผลักดันทั้งสองสิ่งนี้ให้เกิดเป็นผลไปตามที่เราต้องการ  หรือเป้าหมายในชีวิตที่เราวางไว้ที่ไม่ใช่เป็นเพียงอากาศธาตุหรือฝันลมๆ แล้งๆ นั้น คือ  


"ต้องลงมือ  กล้าทำ  กล้าเปลี่ยนแปลงทันที"


แล้วจะทำแบบไหนละ  ถึงจะสำเร็จแบบเร็วและแรง??????


ทำงานแบบไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ  เหนื่อยก็พัก  ทำแบบคนสมาธิสั้น  เดี๋ยวทำ  เดี๋ยวหยุด  เดี๊ยวก็กลับมาทำ  หรือเป็นพวกที่ชอบทำแบบเมื่อเจอตอหรือเจอปัญหาก็กระโดดหลบเลย  อันนี้มันกระจอกไป  ต่อให้ทำไปจนตาย  แล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติมันก็ไปได้ไม่ถึงไหนหรอก

คนที่ไม่ธรรมดาและอยากพบความสำเร็จเร็วๆ นั้น  เขาไม่ทำแบบนั้นกัน  ถ้าจะกล้าทำอะไรที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองทั้งที  มันต้องเอาแบบสุดแรงเกิด  เอาแบบประเภทที่ว่าลูกบ้าเที่ยวพิเศษ  มันถึงจะรุ่ง  มันถึงจะดังเปรี้ยงปร้างสะใจ

แต่มันต้องเป็นความกล้าที่มีสติปัญญา  เป็นความกล้าที่ถูกต้อง  ไม่ใช่ความกล้าแบบไร้สติปัญญาที่หลายคนชอบทำประเภทบอกว่า เฮ้ย! ฉันกล้าทำแล้วนะ  ทำไมไม่ดัง  ไม่สำเร็จเสียที

คนที่ประสบความสำเร็จแบบเร็วและแรงนั้น  เขาใช้ความกล้าแบบพิเศษนี้ไปในทางสร้างสรรค์เชิงบวก  เพื่อตัวเอง  เพื่อครอบครัว  เพื่อสังคมประเทศชาติ  เขากล้าที่จะคิด  กล้าที่จะทำ  และกล้าที่จะรับผิดชอบ  แต่เขาเหล่านั้นจะไม่มีนิสัยดันทุุรังสูงจนเกินเหตุไป

เขากล้าที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ นวัตกรรมชิ้นเยี่ยมสู่โลก  ทั้งวงการศิลปะวิทยาการ  วิทยาศาสตร์  การแพทย์  สร้างสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ   สร้างแนวความคิดในการใช้ชีวิตที่มีความสุข  กล้าที่จะทำงานแบบกัดไม่ปล่อย  พร้อมที่จะผจญกับความความทุกข์ยากลำบากในชีวิต

เพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่เขาคิดในเรื่องต่างๆ และยอมรับความจริงเมื่อมันสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตาม  และที่สำคัญ  เขากล้าที่จะเดินหน้าเอาความผิดพลาดต่างๆ ที่ผ่านมาในแต่ละจุด  มาเป็นบันไดให้เขาปีนป่ายขึ้นไปสู่ความสำเร็จให้จงได้


"เขารู้เส้นทางของตัวเองดีกว่าใครๆ 
ไม่ต้องมีคนสั่งหรือคอยบังคับ"


คนกล้าฝันและกล้าทำแบบนี้ในอดีตมีมาแล้วมากมายในทุกวงการ  ไม่ว่าจะเป็นอเล้กซานเดอร์มหาราช  นโปเลียน  โทมัส เอาวา  เอดิสัน หลุย  ปาสเตอร์ วินเซนต์  แวนโก๊ะห์ ปิกัสโซ่   มหาตมะ คานธี  มาร์ติน ลูเธอร์คิง  ท่านติซ นัทฮันห์   บิลเกต   สตีฟ จ็อบ  มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก   ริชาร์ต เบรนสัน  วอร์เรน  บัฟเฟตต์ ฯลฯ  คนเหล่านี้เป็นนักบุกเบิกทั้งนั้น  ที่สร้างทางแห่งความสำเร็จมาให้คนรุ่นหลังได้ดููในรูปแบบต่างๆ ต้องยกย่องท่านว่าเป็นครูบาอาจารย์ของคนกล้าฝันยุคใหม่เลยทีเดียว

"คิดจะทำอะไรทั้งที  อย่าไปทำอะไรที่มันกระจอกๆ อย่าฝืนทำ  มันเสียเวลา  ต้องเอามันให้บ้ากันไปข้างหนึ่งเลย  ให้มันสะใจกันไปเลย  ดูอะไรให้พร้อมใช้ทุกอย่างที่มีในตัวให้หมด
ถ้ายังไม่พร้อมก็ต้องเตรียมให้พร้อมเสียก่อน  แล้วดันให้มันเกิด  ทำแบบทีเดียวให้มันดังเลย
มันคุ้มกว่ากันเยอะ  จาก อ.เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์"


มีพระวจนะของพระเจ้าอยู่บทหนึ่งในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล  ซึ่งใครที่เคยได้ยินนั้น  ต้องบอกว่าชอบมากๆ ซึ่งก็คือ

"จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วท่านจะพบ
จงเคาะแล้วพระเจ้าจะเปิดให้แก่ท่าน"

คนเราทุุกคนนั้นต้องกล้า  เมื่อกล้าคิดแล้วต้องกล้าที่จะขอ  จะขอกับพระเจ้าที่เราเคารพ  ขอกับผู้ใหญ่  ขอกับผู้มีพระคุณ  กับเพื่อน  หรือแม้แต่กล้าขอกับตัวเองเพื่อจะได้ทำในสิ่งที่คุณรักและเชื่อว่ามันเป็นจริงได้  มันก็จะเป็นจริงได้เสมอ  หลายคนที่เป็นนักจิตวิทยาเรียกการขอแบบนี้  "กฎแห่งการดึงดูด"  ในขณะเดียวกันความสำเร็จนี้ก็ยังเติมเต็มความกล้า  ความมั่นใจในการเลือกที่แตกต่างจากความเชื่อเดิมๆ อันนำมาซึ่งศรัทธาในวิถีทางความคิดนอกกรอบ 

คนที่อยากพบกับความสำเร็จแบบเร็วและแรงนั้น  ในสมัยนี้ต้องกล้าพาเอาตัวเองไปหาความสำเร็จ  เดินเข้าไปหาภูเขาที่ตั้งอยู่  ไม่นอนรอให้ภูเขาขยับเข้ามาหา  รู้ว่าตัวเองเก่งก็ไปแสดงตัวให้เขาดูเลยว่าเก่ง


"หลายคนที่ไม่สำเร็จ  เพราะเอาความกล้าชนิดพิเศษของตนนั้น  ไปใช้ในทิศทางที่ผิด
ผิดเส้นผิดทาง  มันถึงไม่สำเร็จ  หรือไม่ก็สำเร็จแบบผิวเผิน"


ความกล้าแบบนี้มันเป็นปัจจัยแห่งการประสบความสำเร็จมากมาย  ของมหาเศรษฐี  นักค้นคิด  นักประดิษฐ์  นักการตลาด  นักวิจัยของโลกรุ่นใหม่เกือบทุกคนเป็นเพราะเขาทุ่มพลังความกล้าบ้าบิ่นเข้าไปในสินค้า  ผลิตภัณฑ์  แนวคิดศิลปะวิทยาการที่มันสามารถจะเปลี่ยนโลก  เปลี่ยนแนวความคิด  เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนได้จริงๆ  แต่ขอให้สังเกตกันให้ดีว่า  ผลิตภัณฑ์หรือสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงโลกได้นั้นมักจะมีอัตราการเจริญเติบโตของตลาดค่อนข้างสูงมากๆ คล้ายกับการสร้างฐานะขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่คาดฝันของมหาเศรษฐีของโลกหลายคน

แล้วความกล้าแบบนี้จะไปหาได้ที่ไหน  บอกได้คำเดียวว่า  พระเจ้าประทานมาให้ทุกคนแล้ว  มันมีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน  เราต้องหาให้มันเจอ  จะเจอหรือไม่เจอ  ไม่มีใครตอบแทนได้  มันขึ้นอยู่กับความกล้าของตัวเองทั้งสิ้น



วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกชนชาติหนึ่ง



สาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีคุณภาพชีวิตดีที่สุด
ในโลกชนชาติหนึ่ง

สาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกชนชาติหนึ่ง



1. สภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ และการอยู่อย่างโดดเดี่ยวทำให้เกิดการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น  และทำให้ญี่ปุ่นทั้งประเทศมีวัฒนธรรมแบบเดียวกัน
2. สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมกล่มที่มีการร่วมมือทำงานและช่วยกัน  ถึงแม้จะมีกลุ่มชนต่างๆ เช่น ชาวไอนุ  เกาหลี  และอื่นๆ  แต่ก็สามารถหลอมรวมกลุ่มชนต่างๆ เข้ากันได้
3. ศาสนาพุทธนิกายเซ็นมีรูปแบบปลูกฝังให้คนญี่ปุุ่นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของกลุ่ม
4. รปแบบการสอนในสถานศึกษา  โดยอาจารย์เป็นเบ้าหลอมนักเรียน  นักศึกษาให้ออกมาเป็นรูปแบบเดียวกัน
5. ประเพณี  ขนบธรรมเนียมปฏิบัติของคนญี่ปุ่นคือต้องทำตัวเองให้เข้ากับสังคมและต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมด้วย
6. พ่อแม่และครูจะสอนเด็กให้ทำตัวเข้ากับคนอื่นๆ และสามารถอิงกลุ่มได้
7. แนวคิดเรื่องการตอบแทนบุุญคุณทำให้เกิดความต่อเนื่องระหว่างกลุ่มและสังคมในลักษณะพึ่งพาซึ่งกันและกัน
8. การจัดลำดับและระบบอาวุโสทำให้ความช่วยเหลือต่อผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าทำให้เกิดมีความผูกพันกันในระหว่างกลุ่มมากขึ้น
9. แนวคิดเรื่องความกลมเกลียวเป็นกลไกทางสังคมของญี่ปุุ่นที่ใช้ในการรวมพลให้เป็นหน่วยเดียวกัน  โดยอาศัยการประนีประนอมและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง