วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

การลงทุนในระบบอสังหาริมทรัพย์



การลงทุนในระบบอสังหาริมทรัพย์

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี - การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์



1. การจะเป็นนักลงทุุนที่ประสบความสำเร็จนั้น  คุณต้องค้นหาสิ่งที่มีคุุณค่าหรือไม่ก็สร้างคุณค่าขึ้นมา
สิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่ คือ
(1) สถานการณ์ที่ทำให้ราคาลดลง
- มองหาผู้ขายที่สถานการณ์บังคับให้ต้องรีบขายอสังหาริมทรัพย์ของตน  เพราะมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินสด
- มองหาผู้จำนองที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสภาพสินทรัพย์ของตน  โดยยอมให้ส่วนลด  เพราะมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน
(2) อสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา
- มองหาผู้ขายที่จำเป็นต้องจัดการกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่ง "อยู่ในภาวะวิกฤติ" เช่น มีปัญหากับผู้เช่า  ประสบภัยทางธรรมชาติ  น้ำท่วม  ไฟไหม้  เป็นต้น  สำหรับพวกเขาแล้วความสบายใจย่อมมีความสำคัญกว่าการได้เป็นเจ้าของ
- มองหาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมและจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงอย่างมาก  บ่อยครั้งที่การยกเครื่องครั้งใหญ่จะช่วยทำให้คุณสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ในทันที  และทำให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
(3) โอกาสในการดัดแปลง
- มองหาอสังหาริมทรัพย์ที่ถึงเวลาอันควรในการดัดแปลงเพื่อใช้งานรูปแบบอื่น เช่น จากอพาร์ตเมนท์เป็นคอนโดมิเนียม  จากอพาร์ตเมนท์เป็นอาคารสำนักงาน  จากสำนักงานเป็นพื้นที่ขายปลีก  จากผืนที่นาว่างเปล่าเป็นสิ่งปลูกสร้าง  หรือเป็นเขตพื้นที่เพื่อการพัฒนาด้านการพาณิชย์  เมื่อคุณดัดแปลงบางสิ่งจากการใช้งานอย่างหนึ่งไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง  บ่อยครั้งที่สิ่งนั้นจะมีมูลค่าสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

2. การจะเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จนั้น  ขึ้นอยู่กับความชำนาญในทักษะพิเศษ 3 อย่างต่อไปนี้
- ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ : คุณจะค้นหาอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาถูกได้อย่างไร
- หาเงินลงทุน : คุุณจะมีคุณสมบัติผ่านการพิจารณาของผู้รับจำนองและหาเงินดาวน์ได้อย่างไร
- เปลี่ยนมือ : คุณจะนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปขายต่อในตลาดอย่างรวดเร็วและสร้างผลกำไรได้อย่างไร

กระบวนการข้างต้นนี้  แบ่งออกได้เป็น 7 ขั้นตอนด้วยกันคือ
ขั้นตอนที่ 1 : เลือกซื้อเฉพาะอสังหาริมทรัพย์สำหรับพักอาศัยภายในรัศมี 50 กิโลเมตร  จากบ้านของคุณเท่านั้น  บ้านเดี่ยว  อพาร์ตเมนท์  คอนโดมิเนียม  และทาวน์เฮ้าส์สามารถขายต่อ  จัดสรรเงิน  และหาผู้เช่าได้ง่ายกว่า  จงหลีกเลี่ยงอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ขั้นตอนที่ 2 : เลือกพื้นที่เป้าหมายสักหนึ่งตารางกิโลเมตร เพื่อที่คุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญภายในบริเวณนั้น  ภายในพื้นที่ดังกล่าว  คุณจะพบว่ามีอสังหาริมทรัพย์ราคาถูกประมาณ 3-10 แห่งต่อปี  จงเป็นบุคคลแรกที่ไปถึงก่อน  มุ่งเน้นความสนใจภายในพื้นที่เป้าหมาย  แต่ก็ควรพิจารณาอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่อยู่ห่างออกไปจากพื้นที่ที่คุณสนใจด้วย
ขั้นตอนที่ 3 : ใช้ 1 ใน 9 วิธีการเพื่อค้นหาผู้ขายที่มีแรงจูงใจในการขาย  คนส่วนใหญ่มักจะมีความยืดหยุ่นในการขายอสังหาริมทรัพย์ของตนด้วยเหตุผลต่างกัน
ขั้นตอนที่ 4 : วิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีความเป็นไปได้  โดยตั้งคำถามหลัก 5 ข้อ ดังนี้
(1) ราคาเป็นอย่างไร
(2) สภาพของอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างไร
(3) เงื่อนไขเป็นอย่างไร
(4) ทำลที่ตั้งเป็นอย่างไร
(5) ผู้ขายมีแรงจูงใจสูงมากในการขายหรือไม่
ขั้นตอนที่ 5 : พิจารณาต่อคุณควรจจะใช้วิธีใด
ขั้นตอนที่ 6 : ยื่นข้อเสนอขอซื้ออสังหาริมทรัพย์ทุกรายการที่ได้ 12 คะแนนหรือสูงกว่า
ขั้นตอนที่ 7 : ซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น  เก็บมันเอาไว้  หรือนำไปเปลี่ยนมือ


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

อำนาจคานงัด



อำนาจคานงัด

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี - อำนาจคานงัด




1. อำนาจคานงัดมีค่าเท่ากับความเร็ว
ในการหาเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ให้ได้ในชั่วพริบตา คุณจะต้องมีความเชี่ยวชาญในหลักการของอำนาจคานงัด  หากคุณมีอำนาจคานงัดมากเท่าใดในกิจกรรมที่เพิ่มมูลค่าให้แก่คุณ  คุณก็จะสามารถหาเงินได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น

2. คานยิ่งยาวเท่าใด  ผลที่ได้รับก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เศรษฐีผู้รู้แจ้งทราบว่าความง่าย และความเร็วเป็นกระแสใหม่ของการทำธุรกิจ  ดังนั้น  เศรษฐีผู้รู้แจ้งจึงต้องสร้างคานที่ยาวและแข็งแรงมากๆ

3. เศรษฐีเงินล้านคือผู้ที่เชี่ยวชาญในการใช้พลังแห่งอำนาจคานงัดทั้ง 5 ประเภทในโลกของการทำธุรกิจ

- เงินของผู้อื่น (OPM - Other People's Money)
ในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  เราซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินดาวน์ 10%  แต่เรามีอำนาจเหนืออสังหาริมทรัพย์นั้นเต็ม 100%  หนังสือแนะนำการลงทุนเล่มเอก Nothing Down  ได้สอนถึงวิธีการนำอำนาจคานงัดมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่  โดยการซื้อบ้านด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยหรือไม่ต้องใช้เงินเลย  มีผู้คนจำนวนนับพันกลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน  เมื่อนำเอาระบบดังกล่าวนี้ไปปฏิบัติ

- ประสบการณ์การของผู้อื่น (OPE - Other People's Experience) 
การเรียนรู้ประสบการณ์ทั้งหลายด้วยตัวคุณเองนั้นใช้เวลานานเกินไป  ดังนั้นจงหยิบยืมหรือเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น  วิธีการง่ายที่สุุดในการสร้างความร่ำรวยก็คือการไปฝึกงานแบบตัวต่อตัวกับผู้ที่ร่ำรวยแล้ว  เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้  พบปะกับทุกคนที่เขาติดต่อด้วย  และทำในทุกสิ่งที่เขาทำหรือทำให้ดีกว่านั้น  ถ้าคุณไม่สามารถทำเช่นนั้นได้  ก็ให้อ่านหนังสือที่เขาเขียน  ฟังเทปเกี่ยวกับเรื่องราวของเขา  ดูวิดีโอของเขา  ถ้าเป็นไปได้  ก็ให้ไปขอสัมภาษณ์เขา  และไปร่วมการสัมมนาที่เขาจัดขึ้น  แต่ละไอเดียที่คุณเรียนรู้นั้นสามารถประหยัดเวลาในการทำงานของคุณไปได้ถึง 10 ปี  อำนาจคานงัดก็คือ  การเพิ่มผลลัพธ์ให้มากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุด  ดังนั้น  ขอให้คุณพยายามซึมซับข้อมูลและวิสัยทัศน์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตของพวกเขา  ซึ่งถูกอัดแน่นไว้เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้ได้ในทันที  ในรูปแบบของหนังสือ  เทป  ซีดี  ภาพยนตร์  วิดีโอ สื่อมัลติมีเดียต่างๆ และการสัมมนา  นี่คือวิธีการที่ประหยัดเงินและรวดเร็วที่สุดในการเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้อื่น

- ความคิดของผู้อื่น (OPI - Other People's Ideas) 
ลงทุนโดยอาศัยความคิดของผู้อื่นเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง  เป้าหมายคือการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น  ซึ่งสามารถมีส่วนร่วมในแนวคิดสร้างเงินอันทรงพลังกับคุณได้

- เวลาของผู้อื่น (OPT - Other People's Time)
ภายใต้สถานการณ์พิเศษ  คุณจะพบว่ามีผู้ยอมเสียสละเวลาของเขาเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างให้แก่คุณโดยไม่คิดมูลค่า  แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว  พวกเขามักจะคิดค่าตอบแทนเล็กน้อยสำหรับเวลา  ความสามารถเครือข่ายติดต่อ  ทรัพยากร และความชำนาญพิเศษของพวกเขา  คุณสามารถเพิ่มอำนาจคานงัดของคุณได้โดยอาศัยมืออาชีพผู้มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเหล่านี้

- การทำงานของผู้อื่น (OPW - Other People's Work)
คนส่วนมากต้องการที่จะมีงานทำ  พวกเขาต้องการความมั่นคงมากกว่าโอกาส  คุณจึงควรจ้างและมอบหมายงานทุกอย่างที่คุณไม่อยากทำหรือไม่สามารถทำได้ให้แก่พวกเขา  จงสร้างอำนาจคานงัดของคุณ  โดยอาศัยผู้อื่นเพื่อการเติบโตของคุณเอง

4. เศรษฐีเงินล้านต้องมองหาอำนาจคานงัดอยู่ตลอดเวลา 
เศรษฐีผู้รู้แจ้งถามตัวเองอยู่เสมอว่า.. ฉันจะสามารถใช้พลังแห่งอำนาจคานงัดได้อย่างไร  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้  สำหรับโอกาสที่มีอยู่นี้  สำหรับแนวความคิดนี้  การจะเป็นเศรษฐีผู้รู้แจ้งในหนึ่งนาทีนั้น  คุณจะต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่า "อำนาจคานงัดอยู่ที่ไหน อำนาจคานงัดอยู่ไหน"

5. อำนาจคานงัดที่มีพลังสูงสุดมีอยู่ 6 รูปแบบด้วยกัน
- ที่ปรึกษา
- ทีมงาน
- เครือข่าย
- อำนาจศักดิ์สิทธิ์
- เครื่องมือและทักษะ
- ระบบ

จงนำอำนาจคานงัดทุกรูปแบบมาประยุกต์ใช้กับเป้าหมายด้วยวิธีการที่บริสุทธิ์และรู้แจ้ง  ถึงเมื่อนั้นจะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งคุณได้เลย 




วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

ค้นหาอัจฉริยภาพในตัวคุณ



ค้นหาอัจฉริยภาพในตัวคุณ

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



คุณเป็น "อัจฉริยบุคคล" หรือเปล่า  การแสดงอัจฉริยภาพของคุณคือการรู้ว่าคุณต้องการจะทำอะไรกับชีวิตของคุุณ  เพราะว่ามันแสดงถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ  ไทเกอร์  วู้ด,  โอปราห์,  วอร์เรน บัฟเฟต์,บิลเกต,สตีฟ จ็อป,มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก   พวกเขาเหล่านี้ต่างได้แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพในตัวเขา  พวกเขาดำเนินชีวิตในรูปแบบที่พวกเขาควรจะเป็น  เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าเขากำลังทำอะไรอย่างอื่นอยู่  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก!

คุณสมบัติ 4 ประการของผู้ที่กำลังแสดงอัจฉริยภาพของตนเอง  มีดังต่อไปนี้
1. ความชื่นชอบ : พวกเขารักในสิ่งที่พวกเขาทำ  แม้ไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำสิ่งนั้น  พวกเขาก็ยังคงจะทำต่อไปโดยไม่หวังผลแต่อย่างใด
2. พรสวรรค์ : พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดี  ไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษ  สติปัญญา  หรืออัจฉริยภาพ  พวกเขามีครบทุกอย่าง
3. ค่านิยม : การได้ทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการทำมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับพวกเขา
4. พรหมลิขิต : พวกเขารู้ว่ากำลังทำในสิ่งที่เกิดมาเพื่อที่จะทำสิ่งนั้น   ซึ่งเป็นการกระทำในแบบฉบับเฉพาะตัวของเขาเอง  โดยส่วนใหญ่แล้วมันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ  เป็นพรหมลิขิตของพวกเขา



เราจะพบอัจฉริยภาพในตัวของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นหรือ  ไม่อย่างอย่างแน่นอน  ทุกๆ คนต่างก็มีอัจฉริยภาพในแบบของตัวเอง  รวมถึงตัวคุณด้วย  คุณมีพรสวรรค์พิเศษ  มีความสามารถ  มีความสนใจและค่านิยม  ซึ่งตัวคุณเองเท่านั้นที่จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาก่อให้เกิดความยิ่งใหญ่ได้  คุุณมีพรหมลิขิต  ซึ่งตัวคุณเท่านั้นที่จะทำในสิ่งนั้นได้


วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

ทักษะและเครื่องมือของผู้ประสบความสำเร็จ



ทักษะและเครื่องมือ
ของผู้ประสบความสำเร็จ

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



ทักษะและเครื่องมือของผู้ประสบความสำเร็จ

1. คุณในฐานะบุคคลคนหนึ่ง  ก็มีพลังได้ในปัจจุบันนี้
ในยุคที่คอมพิวเตอร์  อุปกรณ์มือถือไร้สาย  สมาร์ทโฟน  และการเชื่อมต่อไร้พรมแดนกับเครือข่ายสื่อสารระดับโลกมีราคาไม่แพง  ปัจจุบันนี้คุณจึงมีหรือสามารถมีปัจจัยการผลิตเป็นของตนเองได้

2. คุณต้องมีและรู้จักวิธีการใช้เครื่องมือเหล่านี้
อุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์  อุปกรณ์มือถือไร้สาย  สมาร์ทโฟน ฯลฯ  ล้วนเป็นส่วนประกอบของอำนาจคานงัดสู่การเป็นเศรษฐีผู้รู้แจ้งของคุณ  การมีเครื่องมือเหล่านี้  และการรู้จักวิธีการใช้มันเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จของคุณ เสมือนกาวที่ยึดติดตัวคุณเข้ากับส่วนอื่นๆ ของอำนาจคานงัดที่คุณมีอยู่

3. จงมีความเชี่ยวชาญในการชักจูงใจ
ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในทักษะการชักจูงใจผู้อื่นสามารถทำให้คนนับล้านทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้  คุณสามารถเรียนร้การสลักเสลาคำพูดของคุณจนเกิดเป็นผลงานชิ้นเอกที่จะทำให้ได้ผลตอบรับตามที่คุณต้องการ  คนส่วนใหญ่ต้องการให้ใครบางคนคอยชักจูงและชี้นำพวกเขาไปในทิศทางที่ถูกต้อง  ซึ่งคุณก็สามารถเป็นใครคนนั้นได้

4. บุคคลผู้มั่งคั่งมีทักษะที่ดีเยี่ยมในด้านการเงิน 7 ประการ
1. คุณค่า : ธนบัตรหนึ่งดอลลาร์แต่ละใบเป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ของเงินตรา
2. การควบคุม : ควบคุมเงินของคุณทุกเม็ดทุกหน่วย
3. การเก็บออม : เก็บออมเงินที่คุณหามาได้อย่างน้อย 10%
4. การลงทุน : จัดระบบในการนำเงินของคุณไปลงทุน
5. การหาเงิน : มีแหล่งรายได้ที่หลากหลายนอกเหนือจากหน้าที่การงานของคุณ
6. การปกป้อง : ปกป้องตนเองโดยอาศัยองค์กรตามกฎหมายต่างๆ
7. การแบ่งปัน : บริจาคเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ของคุณ

5. เศรษฐีผู้รู้แจ้งมีหลักการในการเจรจา
ภายใต้บริบทของความพรั่งพร้อม  มิใช่ความไม่เพียงพอ  เศรษฐีผู้รู้แจ้งมีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อขยายโอกาสให้ทุกคนเป็นผู้ได้รับประโยชน์  จึงไม่มีผู้ใดเลยเป็นฝ่ายเสียในการติดต่อครั้งนั้น

6. เศรษฐีผู้รู้แจ้งให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลา 
85% ของสิ่งที่คุณทำสามารถแสดงผลให้แก่คุณได้เพียง 15% เท่านั้น  และในทำนองกลับกัน  ดังนั้น  จงทำเฉพาะสิ่งที่มีความสำคัญ  แล้วคุณจะประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น





วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

ที่ปรึกษาเศรษฐีเงินล้าน



ที่ปรึกษาเศรษฐีเงินล้าน


ที่ปรึกษาเศรษฐีเงินล้าน



1. ผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนมีที่ปรึกษา
ที่ปรึกษาก็คือเส้นทางลัดสู่มุมมองอันกว้างไกล  ความชำนาญพิเศษ  และความอดทน

2. การได้รับคำปรึกษาเป็นรูปแบบอันทรงพลังของอำนาจคานงัด
การเรียนรู้จากประสบการณ์ของที่ปรึกษาของคุณ  เป็นวิธีการที่รวดเร็ว  ปลอดภัย  และง่ายที่สุดในการไต่ขึ้นสู่ภูเขาเงินล้าน

3. คุณสามารถหาที่ปรึกษาได้ทุกหนแห่ง
ทุกๆ คนที่คุณได้พบสามารถสอนบางสิ่งบางอย่างให้แก่คุณ "โดยบังเอิญ" เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้แก่คุณได้

4. ที่ปรึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลเสมอไป
อาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นสาเหตุให้คุณเปลี่ยนแปลงวิถีการดำรงชีวิตของคุณ เช่น  โรคร้ายที่กำลังคร่าชีวิต  การสูญเสียงานที่ทำอยู่ การอ่านหนังสือ  หรือการเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย  สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นเสมือนที่ปรึกษาของคุณได้

5. จงมองหาความสัมพันธ์กับที่ปรึกษาอย่างต่อเนื่อง  
เมื่อคุณพบว่าตัวคุณยังขาดในสิ่งใด  ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ  ความรู้  ทักษะ  อุปนิสัย  เทคนิค  หรือกลยุทธ์ต่างๆ  จงมองหาที่ปรึกษาเพื่อที่เขาจะได้ช่วยนำคุณเดินไปในเส้นทางลัด

6. รวบรวมดรีมทีมของบรรดาวีรบุรุษและวีรสตรีของคุณทั้งในอดีตและปัจจุบัน
จัดตั้งสภาที่ปรึกษาในจินตนาการของคุณขึ้นโดยมีผู้นำตามที่คุณเลือก  จินตนาการว่าคุณสามารถขอคำปรึกษาจากพวกเขาได้ราวกับว่าคุณกำลังพูดคุยอยู่กับตัวจริงของพวกเขา

7. ตั้งเป้าหมายที่จะค้นหาเศรษฐีเงินล้านอย่างน้อยเดือนละหนึ่งคน 
ทำการติดต่อกับเขาไม่ว่าจะเป็นการพบด้วยตนเอง  ทางโทรศัพท์ หรืออิเมล์ก็ตาม  เพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งที่อยู่ในสมองของที่ปรึกษาเศรษฐีเงินล้านของคุณ

8. ที่ปรึกษาประเภทที่ดีที่สุดคือที่ปรึกษาที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ที่ปรึกษาประเภทนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมซึ่งช่วยให้คุณได้เรียนรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับหลักการ



วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

ทักษะทางการเงิน 7 ประการของผูู้ประสบความสำเร็จ



ทักษะทางการเงิน 7 ประการ
ของผูู้ประสบความสำเร็จ

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



ทักษะทางการเงิน 7 ประการของผูู้ประสบความสำเร็จ
เพราะเหตุใดคนบางคนจึงหาเงินได้มากกว่าพวกเราอีกหลายคนถึง 10 เท่าในช่วงชีวิตของพวกเขา  พวกเขาต้องทำงานหนักกว่า  10 เท่าหรือไม่  พวกเขาฉลาดกว่า 10 หรือไม่ ไม่ใช่อย่างแน่นอน  คำตอบสุดท้ายก็คือบุคคลผู้มั่งคั่งเหล่านั้นมีทักษะที่ดีเยี่ยมในด้านการเงิน 7 ประการดังต่อไปนี้  ซึ่งใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้

ทักษะทางการเงินข้อที่ 1 - คุณค่า
พวกเขามองคุณค่าของธนบัตรแต่ละใบเป็นเสมือนเมล็ดพันธุุ์เงินตรา  คล้ายกับผลโอ๊คลูกเล้กๆ ที่มีพลังในการเติบโตจนกลายเป็นต้นโอ๊คขนาดมหึมาได้  เงินแต่ละดอลลาร์ล้วนมีพลังที่จะเติบโตจนกลายเป็นต้นไม้เงินตราที่ใหญ่โตได้  หากคุณทำลายผลโอ๊คนั้นเสีย  ต้นโอ๊คที่อยู่ภายในก็ต้องตายไปด้วย  เช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์เงินตรา  ผู้มั่งคั่งตระหนักดีว่าเงินเพียงวันละหนึ่งดอลลาร์สามารถเติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งล้านดอลลาร์ได้  ดังนั้นพวกเขาจึงเอาใจใส่เป็นอย่างมากในการใช้จ่ายเงินทุกๆ ดอลลาร์ของพวกเขา

ทักษะทางการเงินข้อที่ 2 - การควบคุม
พวกเขาควบคุมเงินทุกเม็ดทุกหน่วยแม้จะเป็นเศษเงินเล็กน้อยสักเท่าใดก็ตาม
1. พวกเขาจะซื้อแต่ของที่คุ้มค่าที่สุด
2. พวกเขาจะขอส่วนลดและหวังว่าจะได้รับส่วนลด
3. พวกเขาตรวจดูความถูกต้องของใบเสร็จรับเงินทุกใบ
4. พวกเขาพยายามที่จะเปลี่ยนค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจที่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้
5. พวกเขาตรวจสอบตัวเลขทุกจำนวนในบัญชีธนาคารว่าลงตัวพอดีหรือไม่
6. พวกเขาเก็บใบเสร็จรับเงินทุกใบใส่เข้าแฟ้มทันทีที่กลับถึงบ้านหรือที่ทำงาน  กิจกรรมเหล่านี้ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น  แต่สามารถสร้างความมั่นใจทางการเงินได้ในระยะยาว

ทักษะทางการเงินข้อที่ 3 - การเก็บออม
ผู้มั่งคังรักการประหยัดเงินโดยการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด  แต่พวกเขามิได้หยุดเพียงแค่นั้น  พวกเขาจะเก็บออมเงินที่หามาได้อย่างน้อย 10%

ทักษะทางการเงินข้อที่ 4 - การลงทุน
พวกเขาจัดระบบในการนำเงินของพวกเขาไปลงทุน  ลองนึกภาพว่ามีถังอยู่หลายใบ  ซึ่งใช้เป็นที่เก็บเงินจากบัญชีธนาคารหลักของคุณ  ถังใบที่หนึ่งคือถังฉุกเฉินของคุณ  เงินออม 10% ของคุณจะถูกเก็บไว้ที่นี่เป็นอันดับแรกจนกว่าคุณจะมีเงินสะสมในบัญชีธนาคารที่มีความมั่งคั่งเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอยู่ได้นานอย่างน้อย 3 เดือน  เมื่อถังใบที่หนึ่งเต็มแล้ว  เงิน 10% ของคุณจะถูกเก็บไว้ในถังอีกสามใบด้วยกัน คือ การลงทุนแบบเดิม  การลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง  และการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง  คุณสามารถติดต่อกับที่ปรึกษาทางการเงินที่มีชื่อเสียง  เพื่อขอคำแนะนำในการเก็บออมเงินของคุณในกองทุุนรวมที่มีลักษณะทั้งสามประเภทนี้  โดยการหักเงินโดยอัตโนมัติจากบัญชีธนาคารของคุณเพื่อที่คุณจะได้ไม่มีทางลืม

ทักษะทางการเงินข้อที่ 5 - การหาเงิน
พวกเขามีแหล่งรายได้ที่หลากหลายนอกเหนือจากหน้าที่การงานของพวกเขา

ทักษะทางการเงินข้อที่ 6 - การปกป้อง
พวกเขาปกป้องตนเอง โอยอาศัยทรัสต์  บรรษัท  ห้างหุ้นส่วนจำกัด  บริษัทจำกัด  และองค์กรตามกฎหมายอื่นๆ ในความเป็นจริงแล้ว  คุณไม่ต้องการเป็นเศรษฐีเงินล้าน  คุณเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างเศรษฐีเงินล้าน  ขณะที่มีสินทรัพย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เป็นชื่อของคุณ

ทักษะทางการเงินข้อที่ 7 - การแบ่งปัน
พวกเขาเป็นคนมีจิตใจกว้างขวางและจะบริจาคเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้  เคล็ดลับคือเงินนั้นจะเพิ่มค่าทวีคูณได้รวดเร็วกว่าการนำไปหาร  คุณเป็นผู้ที่เติมเต็มให้แก่จักรวาลเมื่อคุณแบ่งปันด้วยความเต็มใจ  เราขอสนับสนุนให้คุณจัดตั้งสิ่งที่จะเป็นมรดกซึ่งยืนยาวกว่าชีวิตของคุณ  จงปลูกต้นไม้เงินตราเพื่อให้ผู้อื่นสามารถเก็บเกี่ยวผลจากมันได้  สิ่งนี้จะถือว่าเป็นความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง



วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

ลงมือทำ : ข้อควรทำ



ลงมือทำ : ข้อควรทำ

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



"ลงมือทำ : ข้อควรทำ"


บัญญัติ 10 ประการ

1. หยุดทุกอย่าง
วางมือจากสิ่งที่คุณทำสักพัก แล้วใคร่ครวญว่าอะไรที่คุณทำแล้วได้ผล และอะไรที่คุณทำแล้วไม่ได้ผล อะไรที่ทำแบบเดิมๆ แล้วไม่ได้ผลก็อย่าคาดหวังถึงผลที่จะได้ ต้องเปลี่ยนวิธีที่คุณทำ

2. มองหาความคิดใหม่
ออกไปมองหาความคิดใหม่ๆ อาจจะตามร้านหนังสือ  ร้านอาหาร  ร้านกาแฟ เป็นต้น  ไม่ว่าจะที่ไหนก็สามารถเป็นแหล่งกำเนิดความคิดใหม่ๆ ได้ทั้งนั้น

3. หาคนที่มีประสบการณ์หรือเคยลงทุนในแบบที่คุณกำลังสนใจอยู่
คุณจะได้ความรู้มากมายจากคนเหล่านี้  เลือกให้ถูกคน  อย่าไปสนใจและคลุกคลีกับคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณกำลังสนใจ  เพราะคนพวกนั้นจะคอยขัดคุณก่อนไปถึงเป้าหมายของคุณ ทำให้คุณสับสน ลังเลที่จะไม่ทำตามฝัน

4. สมัครเข้าสัมมนาอบรมหรือเรียนพิเศษ
อย่างน้อยๆ สักหนึ่งครั้งต่อปี  คุณควรหาคอร์สอบรมสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเองจากผู้ที่มีประสบกาณ์  ซึ่งจะทำให้คุุณได้รับความรู้ที่คุณต้องการอย่างมากมาย

5. เสนอราคา
เมื่อคุณเจอสิ่งที่คุณสนใจ คุณควรทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา  ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าคุณเจออสังหาริมทรัพย์ที่คุณสนใจ  คุณควรเข้าไปเสนอราคาทันที

6. เรื่องของการเล่นหุ้น
หลักในการมองหามูลค่าในหุ้น  อสังหาริมทรัพย์  กองทุนรวม  บริษัทเกิดใหม่  บ้าน  คู่ครอง  ล้วนมีหลักการเดียวกัน  วิธีการไม่ต่างกัน  คือ  คุณต้องรู้ว่าคุณต้องการอะไร  และต้องออกไปเดินหาสิ่งนั้น

7. ลงมือทำ
คุณต้องลงมือทำ  ถ้าอยากประสบความสำเร็จ  ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้






อ้างอิงจาก : หนังสือ Rich Dad Poor Dad พ่อรวยสอนลูก

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

ข้อคิดของมหาเศรษฐี ของ สตีฟ จ็อบ (Steve Jobs)



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
ของ สตีฟ จ็อบ (Steve Jobs)

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี - 6 สตีฟ จ็อบ  วิธีคิดของมหาเศรษฐี



 สตีฟ จอบส์ (Steve jobs) เจ้าพ่อบริษัท แอปเปิล ผู้ล่วงลับเป็นบุคคลผู้คิดค้นนวัตกรรม ซึ่งเปลี่ยนแปลงโลก จ็อบส์ แตกต่างจากคนอื่นตรงที่เขาเลือกมองสิ่งที่คนอื่นมองข้าม และจ็อบส์ยังเชื่อมั่นในพลังแห่งการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่จะเนรมิตสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งไม่เพียงช่วยพัฒนาชีวิต แต่ยังเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปจากเดิม


11 วิธีที่ Steve Jobs ทำให้ Apple เป็นบริษัทที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก


1. เป็นพาร์ทเนอร์กับคู่แข่ง
ลองนึกภาพเป๊ปซี่กับโค้กทำงานร่วมกัน หรือ AIS จับมือกับ DTAC นั่นแหละคือความแปลก เมื่อ Apple และ Microsoft ประกาศที่จะร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กันในปี 1997 เพื่อแก้ไขปัญหาของ Apple จากการขาดทุนสะสมอันยาวนาน ด้วยเงินร่วมทุนจาก Bill Gates 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 
เรื่องที่น่าแปลกใจคือ เฮียจ๊อบทำได้อย่างไรในการทำให้ Bill Gates มาร่วมทุนด้วย แทนที่จะปล่อยให้คู่แข่งล้มตายไปจากธุรกิจซะ 

2. ใส่ใจความสวยงามของผลิตภัณฑ์ 
ในปี 1998 Jobs เรียกประชุมพนักงาน แล้วบอกว่า ?รู้ไหมว่าบริษัทเราผิดพลาดตรงไหน? สินค้าเรา ห่วย มันไม่สวยงามเอาซะเลย? และทุกวันนี้ Apple ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาเป็นผู้นำที่มีสินค้าที่สวยงาม ทั้งจาก iMac หลากสีสรร และ iPad บางเฉียบ Jobs ทำให้สินค้า Apple กลายเป็นสินค้า แฟชั่น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ใช้สอยเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป 

3. เปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์และแผนทางธุรกิจ
Apple เริ่มต้นด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ Jobs รู้ว่า หาก Apple ต้องการที่จะประสบความสำเร็จ เขาต้องขยายตลาดให้กว้างกว่านั้น ซึ่งเป็นที่มาของการออกสินค้าใหม่ๆ อย่าง เครื่องเล่น MP3, เพลง, iPhone และ iPad  จ๊อบเปลี่ยนชื่อบริษัท จาก Apple Computer, Inc. มาเป็น Apple Inc. ในปี 2007 เพื่อรับกับการขยายตลาดและสินค้าใหม่ 

4. ตอบโจทย์ที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง
ร้านค้าทั่วไปไม่สามารถจัดวางสินค้าได้ตามที่ Apple ต้องการ ไม่ยากค่ะ Jobs แก้ไขปัญหานี้ด้วยการเปิด Apple Store เองเลย คราวนี้จะแต่งร้านให้ทันสมัย จะวางสินค้าอย่างไรก็จัดได้สมใจนึก และได้เปิดสาขาไปทั่วโลกอีกต่างหาก 

5. สร้างความต้องการใหม่ให้ลูกค้า แทนที่จะถามว่าลูกค้าต้องการอะไร
Jobs ไม่วิ่งออกไปถามลูกค้าว่าต้องการอะไร แต่บอกให้ลูกค้ารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเขาอยากได้เสียอีก ตัวอย่างที่ดีคือ iPad ก่อนหน้าที่ iPad จะออกตลาด จะมีสักกี่คนบอกได้ว่าอยากได้แบบนี้ แต่ยอดขายถล่มทลายเป็นเครื่องยืนยันอย่างดี ว่า Jobs มาถูกทาง 
  
6. การเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน
Apple ให้ความสำคัญกับสินค้า และการเชื่อมโยงสินค้าต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี เช่น iPod กับ iTunes, iPads และ iPhones กับ App Store และ Jobs ยังเคยบอกไว้ว่า ความคิดสร้างสรรค์คือการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน 

7. มีพนักงานที่หลากหลาย 
คุณไม่จำเป็นต้องจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง หรือต้องจบสายวิทย์มาเท่านั้น เราจึงพบว่า Apple มีพนักงานที่เป็นนักดนตรี, ศิลปิน, นักเขียนกลอน หรือนักประวัติศาสตร์ ที่บังเอิญเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่เก่งขั้นเทพด้วย!!

8. สนับสนุนความคิดต่าง 
โฆษณาของ Apple Think Different ในปี 1990 เป็นโฆษณาที่มีอิทธิพลอย่างสูงตลอดกาล  มันกระตุ้นนวัตกรรมและการคิดค้นใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ยึดถือมาถึงปัจจุบัน 

9. ไม่ต้องเยอะ 
ความเรียบง่ายคือ ความสุข ดีไซเนอร์ของ Apple Jonathan Ives ยืนยันกลยุทธ์นี้ เราพยายามตอบโจทย์ที่เรียบง่าย เพราะธรรมชาติมนุษย์นั้นต้องการความเรียบง่ายและชัดเจน 

10. ขายฝัน ไม่ใช่สินค้า 
Jobs ไม่ได้ขายแค่ตัวสินค้า และความสามารถที่สินค้าจะทำได้ แต่เขาขายประสบการณ์ที่ดีที่ลูกค้าจะได้รับ  จำไว้ว่า สินค้าที่ดี คือสินค้าให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย 

11. เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ 
Steve Jobs เคยพูดไว้ในพิธีจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Stanford ว่า มีความกล้าที่จะวิ่งตามความฝันและลางสังหรณ์ของคุณ เพราะมันคือสิ่งที่คุณต้องการที่จะเป็น 


ข้อคิดของมหาเศรษฐี ของ แซม วอลตัน (Sam Walton)



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
ของ แซม วอลตัน (Sam Walton)


แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี - 6 แซม วอลตัน  วิธีคิดของคนรวยที่ต่างจากคนทั่วไป


Sam Walton ผู้ก่อตั้ง "วอลมาร์ท" เครือข่ายซูเปอร์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เล่าว่า ตั้งแต่จำความได้ ตระกูลของเขาทุกคนถูกปลูกฝังให้เป็นคนที่เห็นคุณค่า ของเงินทุกดอลลาร์ และกลายเป็นบุคลิกที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต แม้กระทั่งวันที่เขากลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกแล้ว เขาก็ยังเลือกที่จะซื้อเครื่องบินส่วนตัวมือสอง เพราะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่า

Sam Walton เป็นอีกตำนานของมหาเศรษฐีที่สร้างตัวมาจากธุรกิจค้าปลีก (เขาเสียชีวิตแล้วในปี 1992) เมื่อปี 1984 แซม วอลตันซึ่งขณะนั้นมีอายุ 66 ปีแล้ว  แซม วอลตัน ถือเป็นบิดาแห่งการค้าปลีกในประวัติศาสตร์อเมริกัน เขาเอาชนะคู่แข่งได้เสมอด้วยประสิทธิภาพและวินัยในการทำงาน จุดเด่นของ Wal-Mart คือราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง โดยใช้เทคนิคการตัดคนกลาง และเจรจาซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง หลักการทำธุรกิจของ Wal-Mart นั้นตรงไปตรงมาคือ “ซื้อของถูก ซื้อของเยอะจนกองเป็นตั้งๆ และขายมันถูกๆ” ซึ่งยังใช้งานได้เสมอ ผู้สืบทอดธุรกิจของเขาคือ David Glass ยังยึดหลักการนี้ และพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าชอบซื้อสินค้าประเภทใด แล้วแชร์ข้อมูลเหล่านี้กลับไปยังผู้ผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการสร้างอิทธิพลของ Wal-Mart ต่อผู้ผลิตสินค้าในซัพพลายเชนด้วย


หลักของคนที่จะประสบความสำเร็จได้ คือ
1.  Commitment : ความมุ่งมั่นทุ่มเท
    - Readiness to accept : เตรียมพร้อมตลอดเวลา
    - Willingness to engage : ยินดีและเต็มใจที่จะทำงานเพิ่ม
    - willingness to avoid : หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตัวที่จะเกิดผลเสียต่อการทำงาน
2.  Sharing : หันกลับไปเอื้อมมือดึงคนอื่นมาให้ประสบความสำเร็จกับเราด้วย
3.  Motivation : สร้างแรงบันดาลใจ
4.  Communication : เราต้องสื่อสาร
5.  Appreciation : ชื่นชมในความพยายามของผู้อื่น
6.  Celebration : เฉลิมฉลอง
7.  Listening : รับฟังและเรียนรู้จากไอเดียของผู้อื่น
8.  Exceed expectation : ทำให้เกินกว่า ที่ผู้อื่นคาดหวัง
9.  Frugality : รู้จักประหยัดมัธยัสถ์
10.  Swim upstream: ท้าทายสถานะให้ปัจจุบันของเรา




ข้อคิดของมหาเศรษฐี ของ รีชาร์ด เบรนสัน (Richard Branson)



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
ของ รีชาร์ด เบรนสัน (Richard Branson)

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี


เขาเป็นเจ้าของสายการบินชื่อดังของโลก   เวอร์จิ้น แอร์ไลน์  (Virgin Airlines)  และเจ้าของธุรกิจมากกว่า 360 บริษัท ที่ใช้ชื่อการค้า  ว่า  "Virgin"





"ทำสิ่งที่ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ในการงาน"

"การเสาะหาการผจญภัย"


แนวคิดการบริหารงานของ รีชาร์ด เบรนสัน (Richard Branson)
- สุภาษิตประจำตัว "Let's do it" อยากทำอะไรก็ทำเลย
- จะไม่ใช้คำว่าไม่ สกัดกั้นการทำทุกอย่าง
- ถ้าไม่มีประสบการณ์ให้บรรลุเป้าหมาย ก็ให้ไปหาประสบการณ์นั้น
- ผู้กล้า คือ ผู้ประสบความสำเร็จ
- คนที่มั่งคั่งจะไม่ยินดีกับเงินเดือนที่ได้ประจำ แต่จะต้องมีความเสี่ยงสูงเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงตามกฏ "High risk high return"
- ความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุด คือ การผูกติดอนาคตองค์กรไว้กับคนๆ เดียว
- จะมีประโยชน์อะไร ถ้าจ้างคนฉลาดๆ มาทำงานด้วยกัน แล้วไม่ใช้ความฉลาดนั้นให้เป็นประโยชน์
- ต้องเชื่อมั่นตัวเองว่าคุณทำได้ แล้วจงกล้า แต่อย่าพนัน
- คนที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้ทำอะไรได้ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ต้องหาทีม
- เมื่อชนะจงดีใจ แต่เมื่อแพ้อย่าเสียใจ
- อย่ามองย้อนกลับไปในอตีต เพราะคุณเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่คุณเรียนรู้จากมันได้
- ตั้งเป้าหมายให้สูงๆ แล้วพัฒนาตัวเองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้



แนวคิดของ Branson
1. จงลงมือทำ
2. จงสนุกกับสิ่งที่คุณทำ
3. กล้เสี่ยงแต่อย่าพนัน
4. พึ่งพาตัวเอง
5. อยู่กับปัจจุบัน
6. ตัวเองสำคัญที่สุดอย่างไปหวังโชค
7. เพื่อนและครอบครัว
8. สุภาพและอย่าโกง
9. จงทำดี



ข้อคิดของมหาเศรษฐี ของ ลีกาชิง (Lee ka shing)



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
ของ ลีกาชิง (Lee ka shing)

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี



"ครอบครัวของเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีตลอดกาลนาน"

"ใฝ่หาโอกาสตลอดเวลา"

"ต้องรู้ข้อมูลความเคลื่อนไหวรอบตัว เผื่อหาโอกาส."


เคล็ดลับการบริหารของลีกาชิง
- รู้ก่อน เห็นก่อน ตัดสินใจก่อน และรวยก่อน
- อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
- สร้างเงินจากปาก
- จะต้องอยู่บนความซื่อสัตย์ และความน่าเชื่อถือ
- ไม่ว่าจะเผชิญกับปัญหาใดใด ต้องทำให้ลูกค้าไว้วางในเราให้มากที่สุด
- และเหนือสิ่งอื่นใด ต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้อย่างถึงที่สุด
- ทำชื่อเสียงให้ดี
- ขยัน ทำงานหนัก
- เป็นที่น่ารักต่อคนอื่น
- รักษาสัญญา
- ทั้งหมดนี้จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
- มีความสุขกับการหาเงิน
- ปฏิบัติตัวเองให้มุ่งมั่น และจริงจัง
- อ่านหนังสือทุกวัน
- อยากรวยขึ้นจะต้องกล้าเสี่ยง
- เสี่ยงแบบมีข้อมูล


ข้อคิดจากวิกฤตเศรษฐกิจของลีกาชิง
- เราพร้อมจะรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
- การที่เป็นคนทันข่าว ทันสถานการณ์บ้านเมือง ทางธุรกิจ สามารถทำให้เราสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้



"หน่ออ่อน ในห้องที่อุ่นสบาย ไม่สามารถงอกยอดที่แข็งแรงได้"


ปัจจัยในการบริหารงานมี 3 อย่าง
1. Timing เวลาที่เหมาะสม
2. Speed เข้าทำในเวลาที่รวดเร็ว
3. Good deal การเจรจากับผุ้ค้าที่ดี คือ เจรณาครั้งเดียวสำเร็จเลย






ข้อคิดของมหาเศรษฐี ของ คาร์ลอส สลิม เฮรู (Carlos Slim Helu)



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
ของ คาร์ลอส สลิม เฮรู  (Carlos Slim Helu)




"คาร์ลอส สลิม" นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน วัย 73 ปี เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังครองตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว จากการจัดอันดับของฟอร์บส์ โดยเขามีทรัพย์สินมากมายถึง 73,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังปี 2553 ไป คนจะเปลี่ยนโลกได้ต้องมี ดังนี้
1. อำนาจของกำลัง
2. อำนาจของเงิน
3. อำนาจของความรู้

7. สิ่งมหัศจรรย์ ของ คาร์ลอส สลิม เฮรู  Carlos Salim Haru
- รวยที่สุดคนแรกที่มาจากประเทศกำลังพัฒนา
- ได้รับฉายาจอมผูกขาดใน Maxico
- เคยช่วยหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ให้รอดจากการล้มละลาย
- รักกีฬาเบสบอลเป็นชีวิตจิตใจ
- เป็นเจ้าพ่อ Maxico
- มีพ่อแม่เป็นชาวเลบานอน
- ขึ้นชื่อว่าเป็นคนประหยัด




"รู้อนาคต ประหยัดคิดรวย รู้จักการต่อยอด"


ข้อคิดของมหาเศรษฐี วิธีคิดของคนรวยที่ต่างจากคนทั่วไป



ข้อคิดของมหาเศรษฐี 
วิธีคิดของคนรวยที่ต่างจากคนทั่วไป



1. คนทั่วไปจริงจังกับการประหยัดอดออม ... คนรวยเน้นหารายได้ให้เพิ่มขึ้น -- คนรวยก็ออมนะ แต่เขาคิดเรื่องเพิ่มรายได้ก่อน

2. คนทั่วไปมองการเริ่มทำธุรกิจเองเป็นความเสี่ยง ... คนรวยมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง -- คนรวยก็กลัวความเสี่ยงนะ เขาจึงคำนวณ/วิเคราะห์อย่างดีก่อนทำ

3. คนทั่วไปใช้พิจารณาเรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วยอารมณ์ ... คนรวยพิจารณาด้วยเหตุผล -- เมื่อใช้อารมณ์ ก็จะมีความกลัวที่ไม่สมเหตุผล

4. คนทั่วไปตั้งเป้าหมายไม่ชัดเจน แถมยังผัดวันประกันพรุ่ง ... คนรวยมีเป้าหมายชัดเจน และมุ่งมั่นอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ทันตามกำหนด

5. คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะ ... คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ -. คนรวยส่วนใหญ่ ไม่ฉาบฉวย ไม่ใช้จ่ายตามกระแส





แปลแบบย่ิอจากบทความ "5 Ways Rich People Think Differently From the Rest of Us" ของ Michele Lerner ซึ่งสรุปมาจากหนังสือ "How Rich People Think" ของ Steve Siebold