วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

ข้อคิดสู่เงินล้าน



ข้อคิดสู่เงินล้าน

แรงบันดาลใจสู่อิสรภาพและร่ำรวยทางการเงิน รวย ร่ำรวย คนรวย เศรษฐี ข้อคิดคนรวย : ข้อคิดสู่เงินล้าน


95% ต้องไม่ใช่คุณ
ข่าวร้ายที่คุณอาจต้องทำใจรับฟัง  มีผู้คนในโลกนี้ที่ไม่เคยบรรลุเป้าหมายทางการเงินจนชั่วชีวิตมากถึง 95%  ในยามเกษียณสิ่งเดียวที่พวกเขาเหล่านี้ฝากชีวิตที่เหลือไว้คือบำนาญหรือระบบสวัสดิการสังคม  ดังนั้น  เพื่อป้องกันไม่ให้คุณตกอยู่ในกลุ่ม 95% ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน  คุณต้องระมัดระวังไม่ให้คุณเองถูกสกัดกั้นกลางทางด้วยอุปสรรคที่ทำให้ทุกคนสะดุดล้มมาแล้ว  เพื่อเอาชนะความล้มเหลวที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก  คุณจึงควรยึดมั่นในหลักการสำคัญๆ ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายเงินล้านอย่างยั่งยืน

คุณมีสิทธิเลือกเสมอ
ทุกบาทสตางค์ที่คุณได้มา คุณมีสิทธิที่จะเลือก "เก็บมันไว้" หรือ "ใช้มันออกไป" หรือ "ใช้มันทำงานให้คุณ"  เงินเป็นของคุณ  คุณเป็นผู้ทรงสิทธิอย่างเต็มเปี่ยมที่จะจัดการกับมัน  เป็นการง่ายเหลือแสนที่คุณจะใช้มันออกไปโดยไม่ได้อะไรคืนเลย  คุณไม่ต้องคิดมากก็ได้ถ้าคุณอยากใช้ชีวิตวันต่อวัน  แต่ขอให้คุณอ่านประโยคนี้อีกครั้ง



"ทุกบาทสตางค์ที่คุณได้มา คุณมีสิทธิที่จะเลือก "เก็บมันไว้" 
หรือ "ใช้มันออกไป" หรือ "ใช้มันทำงานให้คุณ"  เงินเป็นของคุณ"


หนี้สิน(หนี้เสีย) คือ ตัวถ่วง
หนี้เสีย คือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
จดจำคำพูดน่าคิด "ถ้าคุณกินหรือสวมมันไม่ได้ อย่าจ่ายด้วยบัตรเครดิต" ไว้ให้ดี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น "ไม่ว่าอะไร ไม่จ่ายด้วยบัตรเครดิตเลย" จะแจ๋วกว่า  และหากคุุณกำลังจะรูดบัตรเครดิตซื้อของที่คุณไม่มีเงินจ่ายแล้วล่ะก็  ให้ถือว่าคุณกำลังลงมือกระทำอาชญากรรมต่อตัวคุณเองเลยทีเดียว  หากคุณมีบัตรเครดิตกองเป็นตั้ง  รีบกำจัดบัตรเครดิตส่วนเกินของคุณให้หมด  จนเหลือแต่บัตรหลักไม่เกินสองใบ จำไว้ให้ฝังใจว่า "หนี้สินคือก้อนหินที่คอยถ่วงคุณให้จมน้ำ" หนี้สินการบริโภคทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง  ทำลายกระแสเงินสด  ทำลายโอกาสลงทุน  ทำลายความรื่นรมย์ที่แท้จริงของชีวิต  ถ้าจะมีหนี้สิน  จงเลือกมีเฉพาะหนี้สินทีเกิดประโยชน์จริงๆ  หนี้สินที่คุณคำนวณแล้วว่าสร้างความมั่งคั่งคุ้มค่าในอนาคตเท่านั้น  คุณรู้จักอิทธิฤทธิ์ของดอกเบี้ยทบต้นดีกว่าใคร  จงใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง อย่าใช้มันทำลายตัวคุณ 

ให้เงินต่อเงิน
มอบหมายหน้าที่ให้เงินทำงานโดยเร็ว  ไม่ได้แปลว่ามีเงินเท่าไหร่ต้องทุ่มเทลงทุนทั้งหมด  แต่คุณต้องมีเงินก่อน  เงินจึงจะต่อเงินให้คุณได้  ถ้าไม่มีเงินเลย  จงเร่งเริ่มจากการออมหรือลงทุนอย่างเดือนละ 10% ของรายได้  ทำทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีเงินมากกว่านี้  แม้คนที่มีเงินเดือนน้อยนิดก็ออมเงินสำเร็จมาแล้วมากต่อมาก  สิ่งสำคัญคือหมั่นออมเพิ่มหรือลงทุนเพิ่มให้สม่ำเสมอทุกๆ เดือน  จะเก็บไว้ในธนาคารหรือซื้อกองทุนรวมเพิ่มทุกเดือน  ก็สุดแท้แต่ความชอบส่วนตัวของคุณ  จ่ายตัวเองก่อนจ่ายคนอื่น  ทันทีที่มีรายได้  โอนเก็บเข้าบัญชีเลย  สร้างเครื่องมือที่จะทำคุณเก็บออมหรือลงทุนได้อย่างง่าย  สม่ำเสมอและเป็นอัตโนมัติ  ทันทีที่เงินเติบโตให้ผลตอบแทน  อย่าเพิ่งเก็บเกี่ยวเก็บผลตอบแทนนั้น  นำเงินนั้นลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ดอกผลจากดอกผลงอกเงยขึ้นอีก

เขียนแผนให้เป็นลายลักษณ์อักษร
การสัญญาหรือสาบานกับตัวเองว่า "ฉันจะรวย" คงยังไม่พอ  แผนที่อยู่ในใจใครจะอ่านออก คุณจะเริ่มต้นได้อย่างไรถ้าไม่รู้ที่มาที่ไปของตัวเลข  ผู้คนมากมายเก็บเงินไม่ได้เพราะไม่เคยสนใจที่จะเขียนแผนเป็นลายลักษณ์อักษร  จำเป็นมากๆ ที่คุณต้องเขียนมันออกมาบนกระดาษหรือบันทึกมันในแฟ้มข้อมูล  คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักบัญชีชั้นเลิศ  แต่หัดใช้ชอฟแวร์ง่ายๆ ให้เป็นประโยชน์  หรือจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายง่ายๆ ด้วยโปรแกรม Excel ในการนำเสนอผลงานต่อลูกค้า  คุณอยู่แถวหน้าของนักนำเสนอที่ใครๆ ก็ยกย่อง แล้ว "โปรเจคท์สำคัญที่สุดในชีวิต" คุณจะดำเนินการด้วยปากเปล่าอย่างนั้นหรือทั้งหมดนี้คือแผนที่ชีวิตของคุณ ทุกอักษรคือคำมั่นสัญญา ทุกตัวเลขที่ได้มาคือผลงานของคุณ



"นี่คือโครงการสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต  คุณจะสอบตัวเองผ่านไม่ผ่านอยู่ที่งานชิ้นนี้  
ดังนั้นจงสร้าง Action Plan อย่างจริงจัง  ด้วยการทำมันให้เป็นลายลักษณ์อักษร" 



ความรู้คือประทีป
การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนสร้างความรู้  ความรู้ไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ  แต่ยังอาจเปลี่ยนโลกทั้งใบของคุณ  คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ  เราอ่านเฉพาะเมื่อถูกครูบังคับ  เมื่อจบจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย เราจึงดีใจมากๆ ที่เราไม่ต้องอ่านหนังสืออีกต่อไป  ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่มี "ข้อมูลใหม่" หลังจากทำงานไปสักสิบปี  หลายคนเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเริ่มซ้ำซาก  ไม่มีความหมาย  ไม่มีแรงบันดาลใจจ  และผลลัพธ์สุดท้ายคือการประคองชีวิตไปวันต่อวัน  การอ่าน คิด เขียน ฟัง  คือการสะสมทรัพย์ฝากธนาคารสมอง  ดอกเบี้ยปัญญาจะเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว  ความรู้ทำให้คุณมีความเชื่อมั่น  ปัญญาทำให้คุณรู้ทันชีวิต ความรู้ใหม่ๆ ไม่เพียงทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ไม่เพียงทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ  แต่ยังทำให้คุณเห็นช่องทางไต่เต้าในหน้าที่การงาน  เพิ่มช่องทางสร้างรายได้  มองเห็นโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ ก่อนใครๆ เสมอ


"ออมความรู้ให้สม่ำเสมอเหมือนออมเงินในบัญชี  
ให้โอกาสสมองได้อัพเกรด เหมือนอัพเดทสมุุดบัญชีทุกเดือน" 


เข้าใจความเสี่ยง
ยอมรับอย่างผู้เข้าใจโลกการเงินว่า ทันทีที่คุณทุบกระปุกหรือเอาเงินออกจากกระเป๋า  คุณกำลังเข้ามาสู่โลกของความเสี่ยง  เพื่อลดความเสี่ยงที่คุณเผชิญอยู่  คุณมีหน้าที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนด้วยตัวคุณเอง  คุณต้องประมวลความรู้ความเข้าใจก่อนตัดสินใจด้วยตัวเอง คุณมีสิทธิจะกระจายความเสี่ยงด้วยการจัดสำรับการลงทุนให้หลากหลาย  แต่คุณไม่มีสิทธิที่จะโทษใครหากการเลือกสรรของคุณไม่ส่งผลดังใจคิด

เรียนรู้เรื่องภาษี
มีผู้คนจำนวนมากที่เสียภาษีมากมายโดยไม่ยอมเรียนรู้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสามารถประหยัดภาษีได้หลายวิธี  ถ้าคุณงุนงงไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการลงทุนใดที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีบ้าง  ขอให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่รับจัดการด้านภาษี  เสียเงินค่าปรึกษาเล็กน้อย  คุณจะพบวิธีการที่จะประหยัดภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายมากมาย  พยายามควบคุมการจ่ายภาษีของคุณให้อยู่ในราว 10%  ตัวอย่างวิธีประหยัดภาษีที่น่าสนใจคือ  การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทของคุุณมีอยู่  หรือถ้าคุณประกอบอาชีพอิสระ  แบ่งเงินลงทุนบางส่วนไม่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คุณจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างคุ้มค่า

อย่าให้ความโลภบังตา
มีผู้คนมากมายที่สะดุดก้อนหินหน้าคว่ำคำมำหงายเพราะพยายามจะวิ่งปาดหน้าคนอื่น  คุณมีสิทธิที่อยากรวยเร็ว  แต่ต้องไม่ใช่ด้วยทางลัด  ไม่ใช่ด้วยการเหยียบไหล่คนอื่น  ไม่ใช่ด้วยการขี้โกง  ความล้มเหลวที่คุณไปสู่เป้าหมายไม่สำเร็จ  ยังไม่เจ็บปวดเท่าปัญหาใหญ่ที่เกิดจากการที่คุณ  อยากรวยด้วยวิธีการที่ไร้คุณธรรม

คุณเป็นนายของเงิน  อย่าตกเป็นทาสของมัน
คุณต้องการเงินล้านและความมั่นคงของชีวิต  แต่คุณรู้นะว่ามันไม่ได้รับประกันความสุขเสมอไป  เพราะสุดท้ายแล้ว  ความสุขที่แท้จริงในชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินหรือสิ่งที่เงินซื้อมาเพียงเท่านั้น


"มันคงดีไม่น้อย  ถ้าเรารายล้อมด้วยเงินมากมาย  และสิ่งที่ใช้เงินซื้อหามาได้  แต่เราต้องแน่ใจนะว่า  ตลอดเวลาที่เราขวนขวายหารเงินและสิ่งที่ใช้เงินซื้อหามาได้  เราไม่ได้สูญเสียสิ่งที่ใช้เงินซื้อหามาไม่ได้ไปด้วย"

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น