วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้



การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้


"ไม่มีอะไรน่าอาย เท่ากับการมองดูคนอื่น
กำลังทำในสิ่งที่คุณเคยพูดว่าทำไม่ได้"
แซม อีวิง


คนที่คิดว่าอะไรๆ ก็อาจเป็นไปได้นั้น สามารถทำภารกิจที่ดูคล้ายเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จลงได้  เพราะเขาเชื่อว่าปัญหามีไว้ให้แก้ไข  เพราะฉะนั้นมันย่อมต้องมีทางแก้ไขได้  เหตุผลที่เราควรเปิดใจรับการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  มีหลายประการดังต่อไปนี้

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้ ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้
หากคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำอะไรบางอย่างที่ยากแสนยากได้  และคุณก็ทำได้จริงๆ  ผลที่ตามมาก็คือ  จะมีประตูมากกมายเปิดอ้าต้อนรับคุณ  ถ้าคุณเปิดใจยอมรับการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  ก็เท่ากับคุณเปิดตัวเองรับความเป็นไปได้อีกมากมาย

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  ดึงโอกาสและผู้คนมาหา
การเป็นคนที่คิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้นั้นสามารถสร้างโอกาสใหม่และดึงดูดผู้คนได้อย่างไร  คนที่คิดการณ์ใหญ่จะดึงดูดคนระดับ "บิ๊ก" เข้าไปหาเขา  ถ้าคุณอยากทำงานใหญ่ให้สำเร็จคุณจำเป็นต้องฝึกตัวเองให้เป็นนักคิดที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  เพิ่มความเป็นไปได้ของคนอื่น
นักคิดระดับบิ๊กนอกจากจะเนรมิตอะไรต่อมิอะไรได้แล้ว  ยังสร้างโอกาสที่เป็นไปได้ให้แก่คนอื่นด้วย  ที่เป็นเช่นนั้นเพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการถ่ายทอดความเชื่อมั่นจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง  คุณจะกลายเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นและคิดการณ์ใหญ่ขึ้น  ถ้าขลุกอยู่กับนักคิดที่เชื่อทุกอย่างเป็นไปได้



การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้

เปิดทางให้คุณฝันถึงความฝันอันยิ่งใหญ่
ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร  การคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้จะช่วยคุณขยายเส้นขอบฟ้าและฝันถึงฝันอันใหญ่กว่าเดิมได้  ถ้าคุณยอมรับการคิดที่เป็นไปได้ความฝันของคุณจะขยายจากระดับจอมปลวกไปเป็นภูเขา  และเนื่องจากคุณเชื่อในความเป็นไปได้  ก็เท่ากับคุณพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ทำฝันให้เป็นจริงได้



"นักคิดผู้ยิ่งใหญ่ล้วนเชี่ยวชาญในการสร้างมโนภาพ
เป็นภาพอนาคตที่สดใสขึ้นในใจของเขาและของคนอื่น"


การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  ทำให้คุณเหนือชั้นกว่า
ทุกครั้งที่คุณจำกัดป้าย "เป็นไปไม่ได้" ออกไปจากภารกิจ  ก็เท่ากับคุุณยกระดับความสามารถของตัวเองให้เหนือชั้นกว่าคนทั่วไป

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้ ช่วยเพิ่มพละกำลัง
ระหว่างการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้กับพละกำลังมีความสัมพันธ์กันโดยตรง  มีใครบ้างที่รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้  ถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่สามารถทำให้สำเร็จลงได้  คุณยังเต็มใจสละเวลาและแรงกายแรงใจทำงานนั้นต่อไปหรือไม่  คนที่กล้าลงทุนเพราะเขามองเห็นความหวังหรือมีความเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ  หากคุณยอมรับการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  ก็หมายถึงคุณเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่  และนั่นเป็นการเพิ่มพละกำลังให้แก่ตัวเอง

การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้ กันคุณให้พ้นจากการยอมแพ้
คนที่คิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้นั้น  เชื่อว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ  ใครก็ตามที่เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรบางอย่างได้  ต่อให้เขาใช้ความพยายามอย่างหนักเพียงใดก็ตาม  ก็ไม่มีความหมาย  เพราะเขาแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว  ถ้าคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำอะไรบางอย่างได้  คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว



"เหล่าผู้ชนะในชีวิตคิดอยู่เป็นนิจว่า พวกเขาทำได้  
และจะทำ  ในทางตรงข้าม 
 พวกขี้แพ้จะจดจ่ออยู่กับความคิดที่ว่า  
ที่ผ่านมาพวกเขาควรจะทำอะไร 
 หรืออะไรที่พวกเขาจะไม่ทำ" 



ทำอย่างไรจึงจะสัมผัสกับพลังความเป็นไปได้ของการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้
ถ้าคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีและยอมรับวิธีคิดที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้  คุณก็มาทางเดียวกันกับคนที่ประสบความสำเร็จ  อย่างไรก็ตาม  คนบางคนมีนิสัยมองโลกในแง่ร้ายหรือชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่น  อีกทั้งยังมองคนที่คิดว่าทุุกอย่างเป็นไปได้เป็นพวกซื่อบื้อหรือโง่เขลาเบาปัญญา  คนที่มีทัศนคติแบบ มัน-ทำ-ไม่ได้  มีทางเลือกอยู่สองทาง  ทางเลือกที่หนึ่ง  คือ  คาดหวังในสิ่งที่แย่ที่สุดและได้ผลลัพธ์อย่างนี้ทุกครั้งไป  พลังของการคิดในแง่บวกนั้นมีเยอะมาก  ถ้าความมุ่งมั่นกับการคิดในแง่บวกมารวมกับพรสวรรค์และความชำนาญ  ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น  มันใช้ได้ผลดีกับตัวเขา  ถ้าอยากให้การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้ทำงานให้คุณ  ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการดำเนินการตามคำแนะนำต่อไปนี้

เลิกสนใจความเป็นไปไม่ได้
ขั้นแรกของการจะเป็นนักคิดที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้คือ  เลิกมองหาว่ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับสถานการณ์ต่างๆ   ถ้าการคิดในแง่ว่าทุกอย่างเป็นไปได้เป็นของใหม่สำหรับคุณ  ก็ต้องฝึกตัวเองในการสลัดการพูดกับตัวเองในแง่ลบที่อาจได้ยินอยู่ในหัวออกไปบ้าง  เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มคิดเกี่ยวกับความผิดพลาดที่อาจะเกิดขึ้น หรือกำลังหาเหตุผลว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้โดยอัตโนมัตินั้น  ให้หยุดตัวเองแล้วพูดว่า "อย่าไปตรงนั้น" ต่อด้วยคำถาม "แล้วสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอะไรบ้าง"  วิธีนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้  แต่ถ้าความคิดเชิงลบเป็นปัญหาใหญ่ของคุณ  และคำพูดในแง่ร้ายหลุดออกจากปากก่อนที่คุณจะคิดอยู่เป็นประจำ  คุณคงต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวให้คอยเตือนคุณทุกครั้งที่พูดอะไรในแง่ลบออกมา



"ถ้าไม่อยากฝึกคิดในเชิงบวกก็ไม่เป็นไร  
แค่ขจัดความคิดในแง่ลบออกจากใจให้ได้  
ที่เหลืออยู่ก็ดีแล้ว"



อยู่ห่างจากผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญที่เขาเรียกกันอย่างนั้น  เป็นพวกที่ดับความฝันของใครต่อใครมากกว่าใครอื่น  คนที่คิดในแง่บวกจะหลีกเลี่ยงการลงความเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ในทุกเรื่อง  ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ก็ไฟเขียวให้ตัวเองเชื่อว่ามันเป็นไปได้

มองหาความเป็นไปได้ในทุกสถานการณ์
การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  มิใช่เป็นแค่การไม่ยอมมองโลกในแง่ลบมันมีอะไรมากกว่านั้น  เป็นการมองหาความเป็นไปได้ในทางบวก  ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะเป็นในลักษณะตรงกันข้าม  การมองหาความเป็นไปได้ในทุกสถานการณ์  ไม่จำเป็นต้องใช้ไอคิวระดับอัจฉริยะหรือประสบการณ์ยี่สิบปี  ทั้งหมดที่ต้องใช้คือทัศนคติที่ถูกต้อง  ซึ่งทุกคนสามารถบ่มเพาะได้

ฝันให้ใหญ่กว่าหนึ่งเบอร์
วิธีบ่มเพาะทัศนคติมองโลกในแง่ทุกอย่างเป็นไปได้ที่ดีที่สุดว
วิธีที่หนึ่ง คือ ฝันให้ใหญ่กว่าที่คุณเคยฝันตามปกติ ความจริงที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ  คนส่วนใหญ่ฝันเล็กเกินไป  ไม่คิดให้มันใหญ่พอ ถ้าคุณดันตัวเองให้ฝันกว้างไกลและใหญ่ขึ้น  ให้วาดมโนภาพองค์กรของคุณให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งเบอร์  ให้ตั้งเป้าหมายไกลกว่าระยะที่คุณเดินไปได้สบายๆ สักหนึ่งก้าว  คุณจะถูกบังคับให้โตขึ้น  และมันจะทำให้คุณเชื่อในความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น



"วางแผนของคุณให้ใหญ่ตามใจชอบ  เพราะอีก 25 ปีนับจากนี้มันจะดูธรรมดามาก  ปรับแผนของคุณใหม่ให้ใหญ่กว่าที่วางไว้ในตอนแรก 10 เท่า  อีก 25 ปีนับจากนี้คุณจะสงสัยว่า  ทำไมคุณไม่ทำให้มันใหญ่กว่า 50 เท่า"


ข้องใจในสภาพที่เป็นอยู่
คนส่วนใหญ่อยากให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ให้คุณค่าความสงบและมั่นคงไปพร้อมๆ กันด้วย  ดูเหมือนทกคนจะลืมไปว่าเราไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ถ้ายังอยากรักษาสภาพเดิมไว้  การเติบโตหมายถึงการเปลี่ยนแปลง  การเปลี่ยนแปลงย่อมขัดแย้งกับสภาพเดิม  ถ้าคุณต้องการความเป็นไปได้ที่ใหญ่ขึ้น  คุณจะพอใจกับสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่ในขณะนี้ไม่ได้  เมื่อคุณเป็นคนที่คิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  คุณจะเผชิญกับคนจำนวนมากที่ต้องการให้คุณเลิกฝันและพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่  คนที่ประสบความสำเร็จปฏิเสธที่จะยอมรับสภาพเดิม  เมื่อคุณเริ่มสำรวจความเป็นไปได้ที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับตัวคุณเองสำหรับองค์กร  หรือครอบครัวของคุณ (และความท้าทายอื่นๆ ที่คุณปรารถนา) ขอให้ทำใจสบายๆ ที่จะได้รับรู้ว่า ณ นาทีนี้  นักคิดที่เชื่อในความเป็นไปได้ที่อยู่รอบโลก พวกเขากำลังท้าทายกับสภาพที่เป็นอยู่  คุณก็ควรทำด้วย

หาแรงบันดาลใจจจากคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้โดยการศึกษาเรื่องราวของผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่  การคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้ไม่สอดคล้องกับวิถีของคนจำนวนมาก  เพราะฉะนั้น  ถ้าอยากเรียกมันในชื่ออื่นก็เรียกไป "ตั้งใจทำให้สำเร็จ" "เชื่อในตัวเอง" "มั่นใจในความสามารถ" ฯลฯ  เป็นเรื่องจริงที่คนที่เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถทำได้  เขาก็จะทำไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำได้  คุณก็จะทำได้จริงๆ เพราะนี่คือ อานุภาพของการคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้



ถามตัวเอง : 
เรากำลังกระตือรือร้นในการใช้วิธีคิดในเชิงทุกอย่างเป็นไปได้  เพื่อหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่ดูเหมือนแก้ไขไม่ได้อยู่หรือเปล่า




อ้างอิงจาก :  หนังสือคิดให้ใหญ่  คิดให้สำเร็จ โดย John C. Maxwell



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น